คอลัมน์ ใบตองแห้ง
ฟองสบู่ไร้สมอง
ฉลองปีใหม่ คนไทยได้ใช้ของแพงถ้วนหน้า หมูแพง ไก่แพง น้ำมันแพง ขึ้นค่าแก๊สขึ้นค่าไฟ แต่ F-35 ลดราคา (กองทัพอากาศท่านว่า) คนไทยกลับจากเที่ยวปีใหม่ รถติดยาวเหยียดแย่งกันกินแย่งกันใช้ ไปทะเลไปภูเขา เที่ยวฟาร์มแกะยูโรคันทรี เก็บสตรอว์เบอร์รี่ ถ่ายเซลฟี่ทุ่งลาเวนเดอร์ (ไม่ใช่เมืองนอก เมืองไทยนี่แหละ เที่ยวไทยไปกับสมาร์ตโฟน) กลับมาก็เจอโอมิครอน พร้อมกับคำประณาม “ไม่รู้จักรับผิดชอบ” ไม่เหมือนลูกรัฐมนตรีท่านตรวจหาเชื้อแล้ว กลับมาก็ wfh ผับบาร์ปิดยาว ร้านอาหารกินเหล้าได้ 8 จังหวัด ทำมาหากินอัตคัดอีกเป็นเดือน ถามจริง ใครเชื่อบ้างว่าเศรษฐกิจปีนี้จะดี แม้คงดีกว่า 2 ปีที่แย่สุดๆ แค่เริ่มปีหุ้นก็ตก คริปโตก็รูด เพราะธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ซ้ำสรรพากรไทยจะเก็บภาษีคริปโต ซึ่งจะทำให้คนไทยหนีไปตลาดต่างประเทศหมด เศรษฐกิจวันนี้วางอยู่บนอะไร ขอพูดแบบผู้สังเกต การณ์ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ ภาคการผลิตซวนเซไปแล้วส่วนใหญ่ ภาคเกษตรผันผวน หมูแพง ฟาร์มตาย ผลไม้ที่เคยส่งขายจีนก็อนาคตไม่แน่นอน อุตสาหกรรมยังส่งออกได้ดีบางประเภท แต่บางประเภทก็กำลังตาย คนตกงานทะลุ 4 ล้านคน คงต้องไปแข่งกันขายของออนไลน์ หนี้ครัวเรือนสูง ขับรถไปบนถนน ไม่ว่าตรอกซอกซอยหรือต่างจังหวัด ปักป้ายขายบ้านที่ดินเต็มไปหมด รู้กันว่าขายไม่ออก ปีนี้และปีต่อๆ ไปจะมีคนสูญเสียบ้านที่ดินจำนวนมาก ภายใต้กฎหมายบังคับคดีฉบับใหม่ ให้อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีสั่งอายัดประมูลขายได้อย่างรวดเร็ว จนเกิดข่าวดราม่าแบบยายแก่สูญเสียบ้าน ขณะที่รายการวิทยุก็ชักชวนคนไปอบรมกับโค้ชประมูลที่ดินกรมบังคับคดี (อาชีพแนะนำ ถ้าทำใจได้) คนไทยวันนี้ประกอบอาชีพอะไร ธุรกิจรายย่อย SMEs รอวันตายตั้งแต่ก่อนโควิด ขายของออนไลน์? มีกี่คนขายได้อย่างพิมรี่พาย แม้มีบางราย ญาติเป็นสรรพากรเล่าให้ฟัง พ่อแม่พาเด็กอายุ 15 มาร้องห่มร้องไห้ ขายได้เกิน 1.8 ล้านไม่รู้จักจด VAT ภาษีอาน เคยดูทีวีดาวเทียมไหม ร้อยกว่าช่อง เปิดดูช่องไหนก็ขายของจนมึน พิธีกรขายของ นางแบบขายของ ทนายขายของ ฯลฯ ขายครีมขายขนมขายน้ำพริกไปจนอาหารหมาแมว เปิดอ่านข่าวทางเว็บไซต์ ก็ต้องแหวกๆ โฆษณากูเกิ้ล กดผิดตูม! “ผู้ผลิตเซรั่มต่อต้านวัยถูกจับที่สนามบิน” แน่ละ บางจุดก็มีเซอร์ไพรส์ คนรู้จักปรับตัวก็ทำมาหากินทางยูทูบเฟซบุ๊กได้ ใครจะคิดว่ามนต์แคน แก่นคูน มียอดวิวสูงกว่า BLACKPINK มหาไพรวัลย์ มหาสมปอง สึกมารีวิวเป็นเศรษฐีใหม่ เด็กต่างอำเภอก็มีมากมายที่ต้องไปจดทะเบียนบริษัทเพราะทำยูทูบทำเกมมีรายได้เป็นล้านๆ แต่นั่นคือ Disruption ขณะที่ภาคเศรษฐกิจจริงพัง มองด้านบน ยอดเปิดบัญชีเล่นหุ้นหลังโควิด เพิ่มพรวดเท่าตัวจาก 2 ล้านบัญชีเป็น 4 ล้านบัญชี โดยไม่ยักฟองสบู่แตก ทั้งที่เศรษฐกิจพังทั้งโลก คนตกงานมหาศาล หุ้นขึ้นเพราะอเมริกายุโรปอัดเงิน QE ท่วมตลาด ซื้อขายข่าวดีเก็งกำไรอนาคต เช่น อีลอน มัสก์ กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งเพราะโลกเชื่อว่าเทสลาคืออนาคต ทั้งที่มีรถไม่กี่คัน มัสก์ทวีตอะไรนิดหน่อย เงินคริปโตก็พุ่งพรวด รายการลงทุนทางวิทยุทีวี เว็บเพจลงทุน “อายุน้อย ร้อยล้าน” ผุดขึ้นเพียบ โฆษณาชี้ชวนคนรุ่นมิลเลนเนียล ใส่ใจคุณภาพชีวิต สุขภาพ ท่องเที่ยว อยากมีอิสรภาพทางการเงินต้องลงทุน เล่นหุ้น ฟอเร็กซ์ คริปโต จะมามัวอดทนทำงานหนักสร้างเนื้อสร้างตัวแบบคนรุ่นพ่อรุ่นแม่อยู่ทำไม พูดอย่างนี้เหมือนมีกลิ่นคนรุ่นเก่า ก็เข้าใจนะว่าทุกคนต้องปรับตัว โลกใหม่เปลี่ยนอยู่เสมอ ไม่มีความมั่นคงยั่งยืนอีกต่อไป แต่ความวูบวาบที่เกิดขึ้นในขณะนี้น่ากลัว เศรษฐกิจแบบนี้ถ้าเป็นยุคอดีตก็คงฟองสบู่แตก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ เขาเรียกว่าเศรษฐกิจฟิวชั่น แล้วก็ปั่นไปได้เรื่อยๆ โดยไม่แตกง่ายๆ สิ่งที่น่ากลัวคือ โครงสร้างสังคมไทย โครงสร้าง อำนาจรัฐ ไม่น่าจะรับมือกับความผันผวนของโลกยุคใหม่ ที่คงผันผวนรุนแรงใน 2-3 ปีจากนี้ไป เศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนโฉมหน้า ขณะที่ผู้นำรัฐบาล ผู้นำทหาร อาจจะยังไม่เข้าใจว่า NFT คืออะไร เขาซื้อขายกันทำไม รู้แต่ว่าหมูแพง รัฐมนตรีพาณิชย์ต้องจัดรถพุ่มพวง ไม่ได้บอกว่าเป็นผู้รู้ แค่รู้ว่าในภาวะอย่างนี้ประเทศไทยต้องการคนเก่ง คนมีความสามารถ ปรับตัวทันสมัย ภายใต้การปกครองที่มีแต่อำนาจไม่มีสมอง ประเทศไทยไม่มีทางพ้นกับดัก แต่ภายใต้อำนาจอนุรักษ์อย่างนี้ก็เปลี่ยนไม่ได้ ใบตองแห้ง