กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงกันในวงกว้าง หลังจากที่หนุ่มรายหนึ่งได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวที่ทำเอาใจสลาย หลังจากที่แฟนสาวชาวม้ง ถูกครอบครัวบังคับแต่งงานกับผู้ชายที่ลักพาตัว ตามประเพณี ส่งข้อความสุดท้ายหนูรักพี่ แต่ต้องทำตามประเพณี
นี่คือเรื่องราวราวของหนุ่มรายหนึ่ง ที่ได้ออกมาเผยเรื่องราวของตัวเอง ผ่านติ๊กต็อก โดยเล่าว่าในตอนนี้ตนนั้นอยู่บนดอยมูเซอ ขับรถมาจากกรุงเทพฯ มาตามแฟน ซึ่งเป็นคนชนเผ่าม้ง ที่กลับบ้านมาแล้วโดนฉุดไป ซึ่งพ่อแม่ของเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และผลสุดท้ายแฟนสาวของเขาที่คบกันมา 2 ปีกว่า ก็ถูกพ่อแม่ของเธอยกให้แต่งงานกับคนที่มาฉุดเธอไป
ทำให้สุดท้ายหนุ่มรายนี้ต้องกลับบ้านที่กรุงเทพไปคนเดียว เพราะว่าแฟนสาวของเขาเลือกที่จะแต่งงานกับหนุ่มชาวม้งที่มาฉุด ตามประเพณี ส่วนตนที่เป็นแฟนเธอมานานก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ก่อนที่เขาจะอธิบายว่าที่แฟนสาวของเขาจะต้องแต่งงานกับชายคนที่มาฉุดก็เพราะว่า พ่อแม่ทางฝั่งแฟนสาวยกให้เธอให้กับชายคนที่มาฉุดเธอไปแล้วตามประเพณี ทั้งยังคุยเรื่องสินสอดกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ยังมีการเผยแชตที่ฝ่ายหญิงทักมาขอโทษ โดยบอกว่าคบกันต่อไปไม่ได้แล้ว เนื่องจากต้องทำตามประเพณีไม่สามารถเดินออกจากจุด ๆ นี้ได้แล้ว เธอรู้สึกผิดหวังและขอโทษพี่จริง ๆ หนูรักพี่มาก แต่ไม่สามารถเดินออกจากจุด ๆ ที่หนูยืนอยู่ได้ ก่อนจะบอกให้หนุ่มรายนี้ดูแลตัวเองดี ๆ พร้อมบอก ‘พี่รักหนูมากหนูรู้ แต่หนูอาจไปต่อกับพี่ไม่ได้แล้วจริง ๆ’
ทั้งหนุ่มรายนี้ยังได้ไลฟ์เหตุการณ์ตอนที่ไปตามหาตัวแฟนสาวที่หมู่บ้าน และเล่าเสริมว่าแฟนสาวของตนนั้นเป็นคนที่รักครอบครัวมาก ทั้งยังนับถือผี-เคร่งในความเชื่อ หากมีการเจรจาแล้วเธอเลือกที่จะกลับไปอยู่กับแฟนหนุ่มเธอก็สามารถทำได้ แต่เธอก็จะถูกครอบครัวตัดหางปล่อยวัด ถูกสาปแช่งจากครอบครัวและคนในหมู่บ้าน และไม่สามารถกลับเข้ามายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวหรือคนในหมู่บ้านได้อีก
โดยหนุ่มรายนี้ยังพูดต่อว่าตนจะยอมรับในทุกการตัดสินใจของแฟนสาว พร้อมทั้งปกป้องแฟนสาวว่าเธอนั้นไม่ได้เต็มใจที่จะไปหาหนุ่มคนนั้น เพราะเงินและข้าวของทุกชิ้นก็ยังอยู่ที่ห้องของแฟนหนุ่ม ตนจึงอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่น ๆ ที่กำลังคบแฟนสาวชาวเผ่าม้งว่าจะเจอเรื่องราวในลักษณะคล้ายกับตน พร้อมกับกล่าวว่าตนไม่ได้เหมารวม แต่การกระทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ?
ที่มา : tiktok / facebook