โว8ปี รัฐบาลบิ๊กตู่ ผลงานเด่น นายกฯเจรจาค้าขายตปท.ด้วยตนเอง ทำอยู่แล้ว-จะทำต่อไป

Home » โว8ปี รัฐบาลบิ๊กตู่ ผลงานเด่น นายกฯเจรจาค้าขายตปท.ด้วยตนเอง ทำอยู่แล้ว-จะทำต่อไป


โว8ปี รัฐบาลบิ๊กตู่ ผลงานเด่น นายกฯเจรจาค้าขายตปท.ด้วยตนเอง ทำอยู่แล้ว-จะทำต่อไป

รองโฆษกรัฐฯ โว 8ปี รัฐบาลบิ๊กตู่ ผลงานเด่น กำลังเป็นฮับEV ชู ฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย ผลงานชิ้นโบว์แดง โต้ เศรษฐา นายกฯเจรจาค้าขายต่างประเทศด้วยตนเอง ทำอยู่แล้ว-จะทำต่อไป

17 มี.ค. 66 – น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ

ได้ผลักดันให้การส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครอบคลุมการผลิตยานพาหนะไฟฟ้าทุกประเภท รวมทั้งจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า รถโดยสารไฟฟ้า และเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพ

และสามารถพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีในอนาคตได้ ตามมติคณะกรรมการบีโอไอ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Roadmap 30@30) ที่มีเป้าหมายในปี 2573 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ล่าสุด บีโอไอรายงานว่าผู้ผลิตรถEVจากจีนสองค่าย ได้แก่ เนต้า(NETA) และบีวายดี(BYD) ได้วางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงงานผลิตรถ EV ในประเทศไทย คาดว่า จะแล้วเสร็จ 1-2 ปีข้างหน้า โรงงานจะแล้วเสร็จ และยังมีค่ายรถจากจีนและยุโรปยื่นขอรับการสนับสนุนอีกหลายค่าย

โดยรัฐบาลกำลังเร่งผลักดันมาตรการสนับสนุนรถอีวีเพิ่มเติม หรือ มาตรการ EV 3.5 ต่อเนื่องจากมาตรการ EV 3 ที่จะหมดอายุภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งจะทำให้ไทยก้าวสู่ความเป็นฮับอีวีได้ไม่ยาก นโยบายดังกล่าวเป็นที่ชื่นชอบของพี่น้องประชาชน

นอกจากกระตุ้นธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เกิดการจ้างงาน ถ่ายทอดเทคโนโลยีแล้ว เมื่อมีการผลิตที่มากขึ้นในไทย จะทำให้ราคาถูกลง ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและลดมลพิษ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5ได้ในระยะยาว

“นโยบายนี้เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ประชาชนสนใจให้การตอบรับที่ดี ประกอบกับตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ พลิกฟื้นเศรษฐกิจ มุ่งพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง BCG โมเดล และบุกเบิกอุตสาหกรรมใหม่ที่ก้าวทันเทคโนโลยี ที่สำคัญคือการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต 30 ปี กับซาอุดีอาระเบียที่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของพล.อ.ประยุทธ์

นำไปสู่ความสัมพันธ์ในหลายมิติทั้งการค้าทั่วไป มีทั้งการลงทุนและแรงงาน ส่วนที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ระบุผู้นำต้องเจรจาค้าขายกับต่างประเทศด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำอยู่แล้ว ทำอยู่และทำต่อไป

โดยเฉพาะกับซาอุดีอาระเบียนั้น ไม่เพียงได้ในมิติการค้าระหว่างสองประเทศ แต่ยังเปิดโอกาสทอง 9 ด้าน ทั้งการท่องเที่ยว พลังงาน แรงงาน อาหาร สุขภาพ ด้านความมั่นคง การศึกษาศาสนา การค้าการลงทุน และกีฬา ที่พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการอยู่ตลอด” น.ส.ทิพานัน กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ