เล็งใช้ ‘วัคซีนโควิด-19’ ในเด็ก — เมื่อวันอังคาร (25 พ.ค.) โมเดอร์นา อิงก์ (Moderna, Inc.) เปิดเผยว่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพในเด็กอายุ 12-17 ปี หากอ้างอิงจากผลการศึกษาฉบับใหม่ และกำลังวางแผนยื่นขออนุมัติการใช้งานจากหน่วยงานกำกับดูแลสุขภาพในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ช่วงต้นเดือนหน้า เพื่อขยายการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมเด็กช่วงอายุนี้
บริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐฯ กล่าวว่าวัคซีนสามารถก่อให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันในเด็ก เช่นเดียวกับที่พบในการศึกษาของผู้ใหญ่เมื่อปีก่อน โดยการค้นพบครั้งนี้จะทำให้โมเดอร์นากลายเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายที่ 2 ที่ใช้วัคซีนในวัยรุ่น ถัดจากวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech)
โมเดอร์นากล่าวว่าไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่แสดงอาการในบรรดาผู้รับวัคซีน ซึ่งบ่งชี้ประสิทธิภาพของวัคซีนร้อยละ 100 ในหมู่วัยรุ่น แม้พบผู้มีอาการป่วยจำนวนน้อยมากจากเด็กที่เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 3,700 คน
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) อาจใช้เวลาตัดสินอนุมัติภายในไม่กี่สัปดาห์หลังรับคำร้องขอ หากใช้ระยะเวลาตัดสินเหมือนกับของไฟเซอร์ อิงก์ (Pfizer Inc.) ซึ่งใช้เวลาราว 1 เดือนในการอนุมัติคำร้องขอใช้วัคซีนในวัยรุ่น
รายงานข่าวอ้างคณะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพว่าการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาภูมิคุ้มกันทั่วทั้งชุมชน ซึ่งจำเป็นต่อการเฝ้าระวังโรคระบาดใหญ่ครั้งที่ผ่านมาๆ อย่างสมบูรณ์
ด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่าการพิสูจน์ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนในวัยรุ่นช่วยให้โรงเรียนสามารถกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นไปตามแผนของบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ที่ประกาศว่าโรงเรียนรัฐทุกแห่งในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นระบบโรงเรียนขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ จะเปิดการเรียนการสอนในชั้นเรียนอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ ได้อนุมัติการใช้งานวัคซีนโมเดอร์นาในผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคในเด็กอายุ 16-17 ปี เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และอนุมัติวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 12-15 ปี เมื่อต้นเดือนนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก ซินหัว