ฝ่ายค้านสรุปญัตติซักฟอก 8 มิ.ย. พุ่งเป้าถลก “ประยุทธ์-รมต.กระทรวงใหญ่” มั่นใจ ข้อมูลเด็ดกว่าทุกครั้ง โดนสังคมลงโทษแน่
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวภายหลังประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านถึงความคืบหน้าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า ขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 แต่พรรคร่วมยังขอสรุปความถูกต้อง โดยในวันที่ 7 มิ.ย.จะได้ข้อสรุป ซึ่งรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายหลักคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม และรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ เช่น คลัง พาณิชย์ คมนาคม สาธารณสุข เกษตรฯ และจะมีกระทรวงอื่นๆ เพิ่มเติมอีก คาดว่าไม่เกินวันที่ 8 มิ.ย.จะได้ข้อสรุปและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนได้ โดยฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานรัฐสภาในวันที่ 15 มิ.ย.นี้
เมื่อถามว่าพรรคเศษฐกิจไทยและพรรคเล็ก มีแนวโน้มร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องคุยอะไรเยอะ ที่ผ่านมาก็รู้กันอยู่แล้วว่าใครควรทำอะไร แต่พรรคพท.ต้องเดินหน้ายืนขาตัวเองให้แหลมคมมากที่สุด ใครจะมาไม่มาเป็นประเด็นรอง
เมื่อถามว่าการอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ฝ่ายค้านมีข้อมูลเด็ดต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า เราก็คิดว่าเด็ด ซึ่งการอภิปรายงบประมาณที่ผ่านมาเราก็ยังพูดไม่หมด เพราะจะเอาข้อมูลมาอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งสุดท้าย คิดว่าครั้งนี้จะดีและสมบูรณ์กว่าทุกครั้ง
เมื่อถามว่าข้อสอบจะรั่วหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ลือกันไป แต่ความจริงแล้วไม่ถึงกับเป็นข้อสอบรั่วหรือข้อมูลรั่ว เพราะบางครั้งคนรู้กันอยู่ ดักทางกันง่าย
เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคพท. จะอภิปรายนอกสภาฯ ควบคู่กับการอภิปรายในสภาฯ นายสุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันแต่สามารถเกิดขึ้นได้
เมื่อถามว่า กังวล 7 ส.ส.งูเห่าที่จะยกมือโหวตไว้วางใจให้รัฐบาลหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่กังวล มองเป็นเรื่องธรรมชาติ สังคมก็ตัดเสียงเหล่านี้ออก จึงไม่คาดหวังกับส.ส.เหล่านี้อยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญอยากให้ประชาชนจับตาไปที่เนื้อหาสาระ เห็นได้ชัดได้ว่าร้อยละ 90 ของฝ่ายค้านทั่วโลกไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ในการอภิปรายฯ แต่เนื้อหาสาระต่างหากที่ทำให้รัฐบาลเสื่อม และสังคมจะลงโทษ อาจจะแพ้หลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือจบที่การเลือกตั้ง