การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ อัล ยานูบ สเตเดียม ประเทศกาตาร์ เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย. เป็นการแข่งขันในกลุ่มดี ฝรั่งเศส ลงสนามนัดแรกพบ ออสเตรเลีย

เกมนี้ฝรั่งเศส มาในระบบ 4-2-3-2 ประกอบด้วย อูโก โยริส : แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, อิบราฮิมา โคนาเต, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, ลูกัส แอร์กน็องเดซ, ออเรเลียง ชูอาเมนี, อาเดรียง ราบิโอต์, อุสมาน เดมเบเล, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป, โอลิวิเยต์ ชิรูด์

ส่วน ออสเตรเลีย มาในระบบ 4-3-3 แมตธิว ไรอัน : นาธาเนียล แอตกินสัน, แฮร์รี ซูตตาร์, คาย โรวล์ส, อาซิซ เบห์อิช : ไรลีย์ แม็กกรี, อารอน มอย, แจ๊กสัน เออร์ไวน์ : แมตธิว เล็กกี, มิตเชลล์ ดุก, เคร็ก กูดวิน

เริ่มเกมได้เพียง 9 นาที ทีมชาติออสเตรเลีย ได้เฮก่อน จากจังหวะวางบอลยาวจากแดนหลังมาให้ แมตธิว เล็กกี ทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนแตะเข้ากลาง และปาดให้ เคร็ก กูดวิน วิ่งเข้ามายิงเสยคานเข้าไปให้ ออสเตรเลีย ขึ้นนำ 1-0

หลังเสียประตูฝรั่งเศส โหมบุกอย่างหนัก ขณะที่ออสเตรเลีย ลงไปตั้งโซนรับ กระทั่งนาที 27 เธโอ แอร์กน็องเดซ ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน พี่ชาย ลูกัส แอร์กน็องเดช ที่บาดเจ็บ ได้โยนเข้าไปในกรอบให้ ราบิโอต์ โฉบเข้าไปโหม่งตีเสมอให้ ฝรั่งเศส 1-1

เมื่อสกอร์กลับมาเท่ากัน ฝรั่งเศส กลับมาสู่เกมตัวเองอีกครั้ง ทั้งยังคงครองบอลหาทางเจาะเข้าทำประตูได้อยู่เรื่อยๆ นาที 32 ราบิโอต์ ตัดบอลได้ก่อนทำให้ชิ่งกับ เอ็มบัปเป เข้าไปในกรอบ สุดท้ายใจกว้างจ่ายให้ ชิรูด์ ที่ยืนโล่งๆยิงเข้าไปให้ ฝรั่งเศส แซงนำ 2-1 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลังฝรั่งเศส ยังคงเป็นทีมที่เล่นได้ดีกว่า สร้างโอกาสลุ้นประตูได้อย่างต่อเนื่อง จนนาที 68 อุสมาน เดมเบเล ก็เปิดจากฝั่งขวาให้ เอ็มบัปเป ขึ้นโขกเช็ดเสาเป็นประตูให้ฝรั่งเศส หนีเป็น 3-1 เท่านั้นไม่พ่อ 2 นาทีต่อมา นาที 70 เอ็มบัปเป ใช้ความเร็วโยกหนีผู้เล่นออสเตรเลีย มาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนเปิดให้ ชิรูด์ ขึ้นโขกเต็มๆให้ ฝรั่งเศส นำ 4-1

ช่วงเวลาที่เหลือยังเป็นฝรั่งเศส ที่ครองบอลบุกได้ทั้งหมด แต่ไม่มีสกอร์เพิ่ม จบ 90 นาที ฝรั่งเศส เอาชนะ ออสเตรเลีย 4-1 ประเดิม 3 แต้มได้สำเร็จ

ทั้งนี้ จากการที่ ชิรูด์ ทำไป 2 ประตู ทำให้เขายิงในนามทีมชาติไปแล้ว 51 ประตู เทียบเท่าสถิติของตำนานกองหน้าทัพตราไก่อย่าง เธียร์รี อองรี เรียบร้อย