จากกรณี สหรัฐอเมริกาบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดสให้ไทย ซึ่งวัคซีนจำนวนดังกล่าวมีมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ (985 ล้านบาท) เพราะต้องการเห็นไทยเร่งฉีดวัคซีนเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย และสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจในเร็ววัน
นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ หมอหม่อง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความตั้งคำถามผ่านทางเฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit ความว่า
“เดิมวัคซีน Pfizer ที่ได้รับบริจาคจาก สหรัฐฯ 1.5 ล้านโดส จะมาถึง 29 กค.นี้ จัดสรรโควต้าสำหรับ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า 500,000 โดส (ทีแรกสุด บอกว่า 700,000) เมื่อเช้า ทราบว่า ที่ประชุม จัดสรร เหลือ 200,000 โดส ผมอยากทราบว่า 300,000 โดส หายไปไหน ถ้าไปถูกที่ถูกทาง ให้แก่ประชาชนผู้เปราะบางในพื้นที่เสี่ยงสูง ผมจะดีใจมากๆ (เพราะจริงๆ หากมี criteria ชัดเจนสำหรับด่านหน้า ที่ high risk มากๆ และน้องๆแพทย์พยาบาลที่ต้องตรวจคนไข้เป็นจำนวนมากต่อวัน จำนวน 200,000 นี้ อาจจะพอ ?) (ส่วนตัว อาจารย์หมอหัวใจอย่างผมถือว่า ความเสี่ยงปานกลางจะไม่ขอรับเข็มกระตุ้นตอนนี้ ขออยู่กับภูมิต่ำเตี้ย แบบนี้ไปก่อน จนกว่า มีวัคซีนเพียงพอ) แต่ ถ้า 300,000 โดสที่หายไป ไปอยู่ที่แขน เหล่า VIP และเครือญาติ ผมไม่ โอ ครับ”
ขณะเดียวกันในทวิตเตอร์ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นโควตาวัคซีนไฟเซอร์ ผ่านแฮชแท็ก #เก็บไฟเซอร์ไว้ให้ใคร โดยต่างเรียกร้องให้มีการเปิดเผยความชัดเจนในการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคมาให้ชัดเจน พร้อมเรียกร้องให้ฉีดวัคซีน mRNA ให้กับบุคลากรทางการแพทย์โดยเร็วและทั่วถึงที่สุด เพราะในขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดยังคงรุนแรง และพบว่ามีบุคลากรที่ปฏิบัติงานด่านหน้า ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก จนทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งต้องปิดชั่วคราวเพราะขาดแคลนกำลังคน
ทางด้าน เพจเฟซบุ๊ก ภาคีบุคลากรสาธารณสุข ระบุว่า “หมอไม่ทน ภาคีบุคลากรสาธารณสุข และ Nurses Connect ขอเชิญชวนประชาชน เฝ้าจับตาการมาถึงของไฟเซอร์ ในอีก 5 วัน เพื่อให้วัคซีนไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับตามความเสี่ยง และความจำเป็น ไม่ให้มีการบิดเบี้ยวของแผนไปให้หน่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องจะเริ่มฉีดวันที่เท่าไหร่ ? แอบเอาไปให้ใครกี่โดส ? ยังไม่มีคำตอบชัดเจนใด ๆ เกี่ยวกับการจัดสรรวัคซีน”