บริษัทข้ามชาติหลายแห่ง รวมทั้ง แอมะซอน (Amazon) แมร์ริออตต์ (Marriott) และ ฮิลตัน (Hilton) ประกาศว่าจะจ้างผู้ลี้ภัยเพิ่มอีกมากกว่า 13,000 คนในยุโรปตลอด 3 ปีข้างหน้า รวมทั้งสตรีชาวยูเครนที่ลี้ภัยจากสงคราม
คำประกาศนี้นี้มีขึ้นก่อนวันผู้ลี้ภัยโลก (World Refugee Day) จะมาถึงในวันอังคารนี้ โดยมากกว่า 40 บริษัทรับปากว่า จะจ้าง ฝึกฝน หรือเชื่อมต่อเครือข่ายการทำงานให้แก่ผู้ลี้ภัย 250,000 คน โดยในจำนวนนี้ 13,680 คนจะถูกจ้างงานโดยตรงโดยบริษัทเหล่านั้น
เคลลี คลีเมนต์ส รองข้าหลวงใหญ่ด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มีประชากรโลกที่ต้องจากแหล่งที่อยู่ของพวกเขาราว 110 ล้านคน ในจำนวนนี้คาดว่าเป็นเด็กชาวยูเครนราว 12 ล้านคน ซึ่งครึ่งหนึ่งลี้ภัยอยู่ในยุโรป
โครงการจ้างงานผู้ลี้ภัยรอบใหม่นี้จัดขึ้นโดยกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไร Tent Partnership for Refugees ที่เชื่อมต่อภาคธุรกิจกับผู้ลี้ภัย โดยมีบริษัทแอมะซอนเป็นโต้โผใหญ่ โดยทางบริษัทสัญญาว่า จะจ้างผู้ลี้ภัยในยุโรปอย่างน้อย 5,000 คนในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยตำแหน่งงานส่วนใหญ่จะอยู่ที่ฝ่ายโกดังเก็บสินค้า และฝ่ายขนส่งสินค้า
ทางด้านเครือโรงแรมแมร์ริออตต์ และ ฮิลตัน รับปากว่าจะจ้าง 1,500 คน ขณะที่เครือร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ (Starbucks) และบริษัทไอเอสเอส (ISS) จะจ้างอีก 1,000 คน
เมื่อต้นปีนี้ แอมะซอนประกาศตัดพนักงาน 27,000 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการลดจำนวนพนักงานหลังจากบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ จ้างงานเพิ่มขึ้นมากในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นพนักงานกินเงินเดือนเต็มเวลาและพนักงานออฟฟิศ
หลายบริษัทเชื่อว่า บรรดาผู้ลี้ภัยจะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานหลังการระบาดใหญ่ได้เช่นกัน โดยขณะนี้ อัตราการว่างงานในยุโรปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี