แรมโบ้ สวนเพื่อนประเสริฐ ชี้เป็นส.ส.พร้อมกัน แยกพรรค ก็มาพาดพิง เจอกันที่ศาลแน่ ไม่ยอมให้มาก้าวร้าว อัดสมคิด หาว่าฝากลูกตนเข้าตำรวจ ซัดเด็กผิดตรงไหน
วันที่ 21 ก.ค.2565 นายเสกสกล อัตถาวงษ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายพาดพิงตนในเรื่องทุจริตงบกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.)ว่า นายประเสริฐกับตน เป็นส.ส.พร้อมกัน และเป็นเพื่อนกัน แต่พอแยกพรรคกันแล้ว ก็เอาตนมาพาดพิงในการอภิปรายเรื่องงบประมาณของกระทรวงอว.
ตนยังไม่รู้เลยว่าอว.และมหาวิทยาลัยจัดอบรมโดยขั้นตอนวิธีไหน แล้วมาพาดพิงว่าตนไปเรียกร้องผลประโยชน์ ทั้งนี้ เท่าที่ตนทราบงบกลางเพิ่งลงไป 2,000 ล้านบาท บางมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ก็ยังไม่ได้มีการใช้ซักบาท แล้วจะทุจริตอย่างไร ที่กล่าวหาพาดพิงตนไม่รู้เรื่อง และไม่มีความจริงสักเรื่อง เช่นที่อ้างว่าตนไปพบอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตนไปกับคณะหลักสูตรของมหาวิทยาลัยที่ตนเรียนอยู่
ทั้งนี้ตนสนิทกับอธิการหลายมหาวิทยาลัยก็เพราะเรียนหลักสูตรด้วยกัน และเป็นการจัดอบรมโดยอว.เป็นการไปพร้อมคณะ ไม่ได้ไปส่วนตัว ดังนั้นการกล่าวหาตนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งนายกฯก็อนุมติตามมติครม.ตามมหาวิทยาลัย และอว.เสนอมา ตนจะไปมีอำนาจสั่งการอะไรได้
การพาดพิงกล่าวหาผมให้มีความเสียหาย เพื่อนก็เพื่อนเถอะ โดนผมฟ้องแน่ ผมไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด และถ้ามีกระบวนการทุจริต ก็มีกฎหมาย มีองค์กรอิสระ ก็ให้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ทำไมต้องมาพาดพิงถึงผม ผมต้องรักษาสิทธิส่วนบุคคล ที่ต้องร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีฟ้องร้องนายประเสริฐ
“งานนี้เจอกันในศาล ผมไม่ยอมให้นายประเสริฐมาก้าวร้าว ใส่ความให้เสียหาย ผมต้องปกป้องศักดิ์ศรีของผม”
นายเสกสกล กล่าวต่อว่า เหตุผลที่นายประเสริฐออกมาโวยวาย เพราะมหาวิทยาลัยไปจัดอบรมในเขตพิ้นที่เลือกตั้งอ.สีคิ้ว เพราะที่นี่มีเกษตกร ซึ่งนายประเสริฐคงคิดว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานไปเหยียบตาตุ่ม เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้านายประเสร็ฐจะขึ้นเป็นบัญชีรายชื่อ และส่งลูกชายตัวเองลงส.ส.ก็คงจะกลัวแพ้ แต่ตนไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ลงส.ส.ทำไมต้องเอาพาดพิง และกล่าวหานายกรัฐมนตรี และครม.
“นายประเสริฐกลัวแพ้ กลัวลูกชายจะสอบตก ถึงได้ตีโพยตีพาย”
ส่วนกรณีนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้เส้นสายแต่งตั้งลูกชาย-ลูกสาว นายเสกสกลเข้ารับราชการเป็นตำรวจ ว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของเด็กที่ดำเนินการตามขั้นตอนของเขา ทั้งที่จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงนายกรัฐมนตรีไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือถ้าอย่างนั้นแสดงว่ามหาวิทยาลัยนั้นห่วยมากหรือที่นักศึกษาจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง สอบเข้าเรียนนายสิบ ได้ถูกเลือกไปทำงานอยู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านต่างประเทศ เพราะเก่งภาษา
“ตนไม่อยากอธิบายความมากเนื่องจากเป็นเรื่องของเด็ก อย่าทำให้เด็กเสียขวัญและกำลังใจ”
เด็กเขาดำเนินตามกระบวนการขั้นตอนของเขา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายกรัฐมนตรีเลย ถ้าอย่างนั้นผู้อภิปรายทำไมไม่ย้อนไปดูในอดีตที่มีการตั้งคนนามสกุลชินวัตร เป็นผบ.ทบ. ตั้งคนนามสกุลดามาพงศ์เป็นผบ.ตร. ตั้งคนนามสกุลวงศ์สวัสดิ์เป็นคนใหญ่คนโตมากมาย สืบทอดทายาทอสูรเป็นนายกรัฐมนตรีมากี่คนแล้ว ทำไมไม่ไปดูตรงนั้นบ้าง แต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา เลขา ข้าราชการใหญ่โตเป็นสิบๆตำแหน่งแล้วทำไมไม่นำเรื่องเหล่านี้มาอภิปรายบ้าง แต่นี่ไปเอาเรื่องของเด็กตัวเล็กๆที่ไปสอบนายสิบ เรียนปริญญาโทแล้วไปสอบเป็นนายร้อยตำรวจได้แล้วมันผิดตรงไหน
ดังนั้นอย่ามาใช้ขบวนการทำลายอนาคตเด็ก นายสมคิดเป็นผู้หลักผู้ใหญ่และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พูดอะไรก็ให้นึกถึงหัวอกลูกตัวเองด้วย