แม่เด็กผู้เสียชีวิตจากเหตุ ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โพสต์ข้อความขอความเห็นใจ ถูกทักขอยืมเงินเยียวยา หลังลูกสาวเสียชีวิตในเหตุสลด
จากเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี บนถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ครูและนักเรียนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทำให้ครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตต่างหัวใจสลาย และได้มีการทำพิธีนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด 23 รายกลับบ้านที่จังหวัดอุทัยธานี พร้อมกับประกอบพิธีทางศาสนาร่วมกันที่ อาคารอเนกประสงค์ของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการ ไฟไหม้รถบัส ในครั้งนั้นทางรัฐบาลได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา กรณีเสียชีวิต เป็นค่าจัดการศพ รายละ 1,000,000 บาท พร้อมกับแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ่งกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ล่าสุดนั้นผู้ปกครองหนึ่งในครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลดครั้งนั้นได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า “ท่านชาวบ้านที่เคารพรัก ดิฉันคือแม่ ของผู้เสียชีวิตนะคะ ดิฉันไม่ได้ถูกรางวัลที่ 1 นะคะเพราะฉะนั้นกรุณาเห็นใจกันด้วยค่ะไม่ได้มีเงินให้พวกคุณยืมนะคะใครไม่มาเป็นดิฉันไม่รู้หรอกว่าความเสียใจมันจุกขนาดไหน กรุณาคิดด้วยค่ะ”
- เปิด! เงินเยียวยา เหยื่อไฟไหม้รถบัส รัฐบาลจ่ายสูงสุดรายละ 1 ล้านบาท
- หดหู่! พิธีศพวันแรก ญาติร่ำไห้ ทำใจไม่ได้ เหตุไฟไหม้รถบัส ดับ 23 ราย
- ผบช.สพฐ. ยืนยัน! ไฟไหม้รถบัส ดับ 23 ศพ สาเหตุเกิดจาก ‘แก๊สรั่ว’
หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปนั้นก็ทำเอาชาวเน็ตอดไม่ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น “อย่าให้เด็ดขาดนะค่ะเงินของเราที่ได้มาจากที่น้องเสียเราต้องเอาเก็บไว้ทำบุญให้น้องเค้าคนแบบนี้ก้อมีด้วยหรือลองเราไม่มีบ้างสิถ้าเราไปยืมเค้ามันด่าเราสรระพัดเลยค่ะคุณแม่เราไม่ยากได้เงินแบบนี้หลอกเราเห็นเงินแล้วมันจุกที่อกมากๆๆๆเลยค่ะเป็นกำลังใจให้คุณแม่มากๆๆๆค่ะสู้ๆๆๆนะค่ะ”, “ใจแข็งไว้ค่ะคุณแม่.อย่าให้ใครยืมเด็ดขาดเลยคุณแม่เอาไว้ดูแลตนเองและครอบครัวและทำบุญอุทิศกุศลให้น้องได้รับบุญกุศลเป็นเสบียงเดินทางไปสวรรค์เกิดภพใดชาติใด(ถ้ามีจริงได้เกิดเป็นลูกคุณแม่ถ้าเรามีบุญวาสนาต่อกัน)ขอเป็นกำลังใจนะคะ”, “สู้สู้น่ะค่ะ.เงินที่ได้มาจากการสูญเสียและนํ้าตาพ่อและแม่ยังคิดไม่ออกว่าจะเอามาใช้ได้ยังไงเพราะเห็นเงินแล้วเห็นแต่ภาพลูกหน้าลูกมันจุกจริงค่ะ.ขอเป็นกําลังใจให้น่ะค่ะ”, “พอเห็นโพสนี้เห็นใจแม่กันบ้างเถอะ ไม่ว่าเค้าจะได้ สอง สาม ล้าน ก็ไม่คุ้มเลยค่ะ ชีวิตเด็กทั้งชีวิตและอนาคตที่กำลังเติบโต เชื่อเถอะค่ะคนเป็นแม่ลูกมา เป้นแบบนี้ไม่ว่ากี่ล้านเค้าก็ไม่ได้ดีใจที่ลุกต้องมาเป็นแบบนี้” และ “อะไรเนี้ยเขาเสียลูกไปทั้งคนกับมาขอยืมเงินจากคุณแม่ คิดได้ไง สู้ค่ะคุณแม่” เป็นต้น
