ลูกทรพีเมายาทุบตีจนแม่ต้องย้ายหนีไปต่างจังหวัด ชาวบ้านผวาตัวอันตราย เข้าคุกแค่ 3 วัน ออกมาอาละวาดใหม่
(9 เม.ย.64) เมื่อเวลา 18.00 น. ร.ต.อ.กิตติธรา จันทร์แจ้ง รองสารวัตรสืบสวน สภ.พานทองพร้อมชุดสืบสวน และนางวิภาวี แดงท่าขาม นายอำเภอพานทอง นางสาวกัลยากร กุลพรรัตน์ ปลัดอำเภอพานทองพร้อมกำลังกองร้องกองอาสารักษาดินแดนกองร้อยที่ 7 นำกำลังบุกเข้าตรวจและจับกุม นายพิพัฒน์ อายุ 44 ปี หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่านายพิพัฒน์ มีพฤติกรรมเสพยาแล้วชอบโวยวายขาดสติทำร้ายแม่อยู่บ่อยครั้งจนชาวบ้านและเพื่อนบ้านหวาดระแวงหวั่นเกิดอันตรายต่อคนในชุมชน หลังจากที่ได้ควบคุมตัวนายพิพัฒน์มาสอบถามเบื้องต้นอ้างว่า ตนได้ขอกุญแจบ้านกับแม่ ที่อยู่ ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี แต่แม่ไม่ให้ตนจึงได้โมโหด่าแม่แต่ไม่ได้ทุบตีจากนั้นได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบว่า ปัสสาวะเป็นสีม่วงจึงได้ทำการจับกุมมาทำประวัติและดำเนินการ เพื่อจะส่งตัวไปบำบัดรักษาอาการ
จากการสอบถามนายอ๊อด (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่านายพิพัฒน์ ชอบเสพยาแล้วจะมีอาการคล้ายคนหลอนแล้วเดินโวยวายรอบบ้านและในชุมชน จนชาวบ้านหวาดกลัวและหวาดระแวงเป็นคนอารมณ์รุนแรง ล่าสุดถูกตำรวจจับตัวไปเพิ่งออกจากคุกมาได้ประมาณ 3 วันก็มาก่อเหตุอีก ล่าสุดเมื่อวานได้ลงมือทุบตีแม่จนแม่ได้หนีไปอาศัยอยู่ต่างจังหวัดเพราะกลัวว่าอยู่ต่ออาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต บ้านหลังนี้มีนายพิพัฒน์กับแม่อยู่เพียง 2 คน แต่ตอนนี้แม่หนีไปแล้วเหลือแต่นายพิพัฒน์ ชาวบ้านจึงพากันตื่นกลัวเพราะมีเด็กและผู้หญิงกันเยอะ อยากให้ตำรวจดำเนินการอย่างจริงจังนำตัวไปบำบัดให้หายเป็นปกติเหมือนคนอื่นด้วย
จากการสอบถามสมาชิกตรี ทวีศักดิ์ จันทสาร เจ้าหน้าที่สมาชิกกองร้องกองอาสารักษาดินแดนกองร้อยที่ 7 ชุดจับกุมได้เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้เสพยาเสพติดแล้วคลุ้มคลั่งและทำร้ายร่างกายมารดาจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบและจับกุม ผู้ก่อเหตุชื่อนายพิพัฒน์อยู่ในอาการเพิ่งตื่นนอนจึงได้ทำการสอบถามนายพิพัฒน์ให้ยังให้การวกวน จึงทำการตรวจสารเสพติดในร่างกายพบปัสสาวะเป็นสีม่วงจึงทำการจับกุมมาสอบสวนเพิ่มเติม
จากนี้จะได้นำตัวนายพิพัฒน์ส่งบำบัดรักษาอาการที่ติดจากการเสพยาเสพติดอย่างจริงจัง พราะนายพิพัฒน์มีพฤติกรรมเสพยาและถูกดำเนินคดีมาแล้วบ่อยครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รับการรักษาตัว