ทนายเผยมีความผิดครอบครองไม่ว่าใช้หรือยังไม่ใช้ แม่ไอซ์ น้ำตาไหล ลูกถูกยกเลิกงาน-โดนโยงให้เข้าใจผิดปมผจก.ดับ เผยจังหวะนรกรู้เท่าไม่ถึงการณ์

วันที่ 5 พ.ค.66 แม่บังอร ของนางเอก ไอซ์ ปรีชญา เปิดใจในรายการโหนกระแส พร้อมลูกสาว นอกจากเล่าเหตุการณ์ต้องเผชิญกับสัตว์มีพิษ สัตว์เลื้อยคลานหลากหลายชนิดอยู่เต็มในบ้าน ทั้งงูเห่า งูเหลือม ตัวเงินตัวทอง ตะขาบ เป็นต้น มาทำลายทรัพย์สินในบ้าน และทำร้ายสัตว์เลี้ยงในบ้านจนตาย ไม่รู้วันไหนจะทำร้ายชีวิตคน พยายามแก้ปัญหามาทุกอย่างก็แก้ไม่ได้ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่รู้ว่าการสั่งไซยาไนด์มาจะมีความผิด และไม่รู้ว่าการทำร้ายตัวเงินตัวทองก็มีความผิด โดยได้ไปแสดงความบริสุทธิ์กับตำรวจ โดยนำไซยาไนด์ที่ซื้อมาไปที่ สน.บางเขน ให้ตำรวจแล้ว

ทั้งนี้บางช่วงบางตอนคุณแม่ของไอซ์น้ำตาไหลสงสารลูกสาว เพราะมีบางเพจไปนำรูปไอซ์กับ โก้ ผู้จัดการที่เสียชีวิตไปแล้ว มาโยงถึงเรื่องนี้สร้างความสะเทือนใจให้ลูกสาวซึ่งรักผู้จัดการมาก โดยแม่บอกว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้น น้องถูกแคนเซิลเรื่องงาน น้องร้องไห้ตลอด มีเพจหนึ่ง เอารูปผจก.น้องที่เสียชีวิตมาหลายปี มาขึ้นคู่กับน้อง บอกว่าตายแบบนี้หรือเปล่า ยืนยันเราซื้อ (ไซยาไนด์) ครั้งแรก ไม่เคยซื้อมาก่อน

อ่านข่าว – อ่านข่าว ไอซ์ ร่ำไห้เปิดใจสั่งไซยาไนด์ ยอมรับผิด ทรมานใจโยงผจก.ดับช่วงเดียวเหยื่อ

เขารักมากผู้จัดการคนนี้ พี่โก้ป่วย อยู่รพ. แม่ยังไปเยี่ยม เวลาแกป่วยแกจะไม่บอก แกไม่มาตามน้อง เลยถามอยู่ไหน อยู่รพ.กำลังให้ออกซิเจน อยู่รพ. 5-6 วัน หมอบอกหัวใจวาย แล้วกลับมาอยู่ที่บ้าน ตอนที่เขาเสีย ไม่มีใครอยู่บ้านเลย แม่เป็นคนไปที่บ้าน ไปจัดงานศพให้เขา เขารักน้องมาก น้องเลยสะเทือนใจ

แม่ เผยอีกว่า ตอนที่น้องบอกว่าสั่งซื้อเราไม่ได้ห้ามเพราะไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย แม่กลัวสัตว์มีพิษเหล่านี้ ทำลายทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยงในบ้าน ไม่รู้เมื่อไหร่จะมาถึงตัวเรา อยากให้มองเจตนาน้อง ครอบครัว รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จังหวะนรกซื้อตอนมีกระแสอยู่ เรายอมรับหากจะไปให้ปากคำตำรวจ

ด้าน ทนายแก้ว ที่มาร่วมรายการด้วยพูดถึงบทลงโทษการครอบครอง ไซยาไนด์ วัตถุอันตรายชนิดที่3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับว่า มีไว้ในครอบครอง ใช้หรือไม่ใช้ก็ผิด เข้าใจเอาไปให้ตำรวจ เข้าใจว่า พนักงานสอบสวนเองก็ยังไม่ทราบด้วยซ้ำถึงได้ระบุแบบนั้นว่าให้มาเอากลับคืนไปเมื่อไหร่ก็ได้ กรณีนี้เข้าบทลงโทษตามกฎหมาย