โหด แฟนหนุ่มบุกตบ สาวพีอาร์ กลางร้านข้ามต้มต่อหน้าลูกค้า ขับจักรยานยนต์จับร่างลากไปกับถนน แม่ลั่น เอาเรื่องถึงที่สุด ทำลูกสาวเดินไม่ได้ 2 เดือน
วันที่ 18 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพตนเองถูกทำร้ายร่างกายจากฝีมือแฟนตัวเอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมข้อความตัดพ้อว่า “หงส์ไปทำอะไรหรอหงส์ถึงต้องโดนขนาดนี้ ต้องนอนโรงพยาบาลอีก 1 เดือน เพราะแจ้งว่าต้องผ่าตัดเข่าข้างซ้ายอีก 1 ครั้ง ข้างขวา 3-4 ครั้ง จะกลับมาเดินได้ปกติไหมเน้อ
อยากรู้ว่าไปอะไรผิดขนาดไหนถึงโดนตบในร้านข้ามต้ม ถึงโดนลากจากวัดโพธิ์ถึงสรรพากรเหมือนหมาตัวหนึ่ง แบบนั้น น้องบอกพี่ร้องจนไม่ร้องคงสลบไป นี่แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงทำกะนี่แบบนั้น มันคือสิ่งที่นี่สมควรได้รับหรอ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ” และผู้แชร์ออกไปเป็นจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถาม นางกิ่งกาญจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ชาว ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บคือ น้องหงส์ หรือ น.ส.นันทิยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี เป็นลูกสาวคนโตทำงานเป็นพีอาร์ และเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว ส่งเสียน้องเรียน ดูแลทุกคนในบ้าน เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงคืนของวันที่ 14 ต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ตนได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลว่าลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ตนรีบไปโรงพยาบาลทันที
นางกิ่งกาญจน์ กล่าวต่อว่า พบสภาพลูกแล้วคือสงสารลูกมากมีแต่บาดแผลเลือดเต็มตัว อาการสาหัสต้องนอนโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ฟันหัก ปากแตก เย็บปาก หัวแตก เย็บหัว เข่าทั้งสองและนิ้วโป่งทะลุถึงกระดูกผ่าตัดแล้ว เดินไม่ได้ประมาณ 2 เดือน อาจต้องผ่าตัดสมองเพราะมีเลือดคั่งต้องผ่าตัดเข่าข้างซ้ายอีก 1 ครั้ง ข้างขวา 3-4 ครั้ง
นางกิ่งกาญจน์ กล่าวอีกว่า จากการสอบถามทราบว่า วันเกิดเหตุลูกสาวตนไปทำงานพีอาร์ที่ร้านข้าวต้ม จู่ ๆ นายดลรภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นแฟนของลูกสาว คบหากันมาได้ประมาณ 5 เดือน ได้ขับรถจักรยานยนต์ไปหาลูกสาวที่ร้านข้าวต้น กระชากโทรศัพท์และตบหน้าลูกตนต่อหน้าลูกค้า
นางกิ่งกาญจน์ กล่าวด้วยว่า จากนั้น ลากตัวลูกสาวตนขึ้นรถจักรยานยนต์ลากลูกสาวตน โดยขาครูดไปกับพื้นเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร จนถึงหน้าบ้านของนายดลรภัทร สภาพตอนนั้นลูกสาวสลบแล้ว แผลเต็มตัว นอนจมกองเลือด พลเมืองดีที่ขับรถตามมาเห็นเหตุการณ์จึงแจ้งตำรวจและกู้ภัยเพื่อพาลูกตนส่งโรงพยาบาล
นางกิ่งกาญจน์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องตนก็ได้รับการติดต่อจากแม่ผู้ก่อเหตุว่าไม่ให้เอาเรื่องได้ไหม ตนเสียใจกับคำพูดนี้มาก ตนจึงตอบกลับไปว่า ถ้าเป็นลูกสาวคุณโดนแบบนี้บ้าง คุณจะทำใจไม่เอาเรื่องได้ไหม ตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่ต้องการรับคำขอโทษใด ๆ ทั้งนั้น ทำทารุณโหดร้ายกับลูกสาวตนเกินไป
“ตลอดระยะเวลาที่คบลูกสาวแม่ถูกทำร้ายร่างกายกันมาตลอด ลูกสาวมีรอยฟกช้ำดำเขียวทั้งตัว แม่เคยบอกลูกว่าให้เลิกรากันไป แต่ลูกสาวก็ให้อภัยให้มาตลอด แต่ครั้งนี้รุนแรงเกินไป เหมือนจะหมายเอาชีวิตกันเลย คนรักกันเขาไม่ทำร้ายกันแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มันเกินไปที่ทำกันขนาดนี้” นางกิ่งกาญจน์
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายดลรภัทร ไปส่งพนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และฝากขังตั้งแต่วันที่ก่อเหตุแล้ว ก่อนจะได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวยืนยันว่า ทางตำรวจไม่ได้เพิกเฉยต่อหน้าที่และทำงานอย่างตรงไปตรงมา ขณะนี้ได้สอบปากคำพยาน แม่ผู้ก่อเหตุ และตัวผู้ก่อเหตุไปเรียบร้อยแล้ว รอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นก็จะไปสอบปากคำ เพื่อประกอบสำนวนคดีและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป