เมื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจชลบุรี กับ ‘จ่าสิงในละคร’ ยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องยาเสพติดและฟอกเงิน
เมื่อเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ออกมารายงานข่าว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่โทรหา จ่าสิงในละครดัง ผู้กองเจ้าเสน่ห์ อ้างเป็นตำรวจชลบุรี โดยระบุภายในโพสต์ว่า
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 พ.ค.65 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน “หนุงหนิง สิงหราช” นายสุวัฒน์ ทับทวี อายุ 47 ปี นักแสดงตลกเจ้าของบท “จ่าสิงห์” ในละครเรื่อง ผู้กองเจ้าเสน่ห์ ทางทีวีช่อง 3 และ ช่อง one31 เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สถา ด้วงเอียด รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. แจ้งความ กรณีที่ถูกกลุ่มบุคคลสงสัยว่าเป็น ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ชลบุรี โทร.มาพยายามเอาข้อมูลส่วนตัว
นายสุวัฒน์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.เวลากลางคืน มีโทรศัพท์หมายเลข 0614341927 โทร.มาหาตนก่อนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนขอแอดไลน์เพื่อสนทนา ขณะที่ตนอยู่ที่บ้านพัก ซึ่งตนเห็นเบอร์แปลกๆ จึงบอกภรรยาให้เตรียมหยิบมือถือถ่ายอัดคลิปไว้ก่อนรับสายทางไลน์ที่ใช้ชื่อ ‘สภ.ชลบุรี’ โดยสายที่โทร.มาขอเปิดกล้องให้เห็นหน้าเพื่อยืนยันว่าเขาเป็นตำรวจจริงชื่อ ส.ต.ท.ภานุรุต ปัญญาบุญ แจ้งว่าเมื่อวันที่ 3 มี.ค.65 ได้มีการนำข้อมูลส่วนตัวของตนไปใช้เช่ารถ กะบะฟอร์ดเลนเจอร์สีขาว ทะเบียน สก 4420 ชลบุรี เป็นรถในคดีจราจร ซึ่งตนเองปฏิเสธไปว่าไม่เกี่ยวข้อง ไม่รู้จัก ไม่เคยมีรถกระบะดังกล่าว ตนมีหลักฐานยืนยันว่าวันเวลาดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้จากเฟซบุ๊กส่วนตัวขณะนั้นอยู่ที่บ้านแฟน ชัยบาดาล จ.ลพบุรี
จากนั้นก็ปลายสายขอทราบว่า ข้อมูลส่วนตัวของตนรั่วไหลไปทางใดหรือเปล่า ตนตอบไม่ทราบ แต่จำได้ว่าหลายเดือนก่อน เคยให้ข้อมูลไปกับบุคคลหนึ่งที่ทำโครงการจิตอาสากลุ่มหนึ่ง ที่ จ.เชียงใหม่ ขอเอกสารข้อมูลจะไปออกบัตรสมาชิก จึงให้ไปทั้งเลขบัญชีธนาคาร บัตรประชาชน รูปถ่าย
จากนั้นได้ยินเสียงเขาวิทยุสื่อสาร สอบถามฝ่ายทะเบียนของ สภ.ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า ชื่อและเลขบัตรประชาชนของตน ไปเกี่ยวข้องการคดียาเสพติดและคดีฟอกเงิน ของนายวิชิต สง่างาม โดยมีชื่อตนได้ขายบัญชีธนาคารกสิกร กับบุคคลรายนี้ในราคา 1.2 หมื่นบาท ในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา มีเงิน 6.9 ล้านบาทเข้ามาในบัญชี ก่อนยอดเงินในบัญชีหายไป 2.5 ล้านบาท ผกก.สภ.ชลบุรี มีคำสั่งให้ติดตามเงินที่หายไปโดยขอตรวจสอบบัญชีผู้ต้องสงสัยทั้งหมดในคดี ขอให้ทำการสอบสวนอย่างละเอียด และแจ้ง ว.5 ไปยัง ทาง พ.ต.อ. ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.ชลบุรีทราบ พร้อมกับให้อายัดเงินในบัญชีทั้งหมด
ตนรู้สึกว่าน่าจะเป็น ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ที่อาละวาดหลอกลวงให้โอนเงิน ได้สอบถามชื่อตำรวจที่โทร.มาอีกครั้ง ก่อนจะคุยต่อด้วยการสวมบทเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยถามกลับไปว่า เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและการฟอกเงินดังกล่าว ตนจะต้องทำอย่างไรบ้าง เขาแจ้งว่า ผกก.ได้ให้ตรวจสอบ 1.)นายพิชิต ซื้อสมุดบัญชีจากตนไปราคา 1.2 หมื่นบาทจริงหรือไม่ ตนปฏิเสธว่าไม่ได้ซื้อ 2.)นายพิชิต ได้โอนเงินจำนวน 2.5 ล้านบาทไปบัญชีสุวัฒน์ ทับทวี ของตน ปฏิเสธว่าไม่จริง 3.)นายพิชิต ที่ถูกจับกุมได้ ระบุว่าตนขอ 10เปอร์เซ็นต์ของการฟอกเงิน ตนปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
ปลายสายแจ้งต่อว่า ถึงแม้ตนจะปฏิเสธ แต่ก็ยังตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะตกเป็นผู้ต้องหา เขาขอทำการตรวจสอบบัญชีชื่อสุวัฒน์ ทับทวี ทั้งหมดทุกบัญชี ขอแค่เลขบัญชี 4 ตัวท้ายเท่านั้น และเป็นบัญชีอะไรบ้างเพื่อทำการเปรียบเทียบกับบัญชีคนร้าย ตนจึงปฏิเสธไม่ยอมให้ เขาขู่ว่าถ้าไม่ยอมบอกก็ให้รอหมายเรียกมาเพื่อไปพบที่ สภ.ชลบุรี ถ้าไม่ไปพบ ก็จะออกหมายจับ โดย พ.ต.อ. ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.ชลบุรี จะทำการอายัดบัญชีธนาคารของตนทุกบัญชีไว้ก่อน จากนั้นก็วางสายไป
วันนี้จึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้อง กับขบวนการค้ายาเสพติดและการฟอกเงินแต่อย่างใด
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบก่อนแนะนำผู้เสียหายแจ้งความทางออนไลน์ก่อน