แบงก์ชาติเกาหลีใต้ปรับ – วันที่ 25 พ.ย. บีบีซี รายงานว่า ธนาคารแห่งเกาหลี ธนาคารกลางของเกาหลีใต้ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกเป็นครั้งที่สองในปีนี้จาก 0.25% สู่ระดับ 1% ท่ามกลางความกังวลเรื่องราคาและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น
ธนาคารแห่งเกาหลีระบุในแถลงการณ์ว่า “เศรษฐกิจเกาหลีใต้ฟื้นตัวต่อเนื่อง คณะกรรมการธนาคารแห่งเกาหลีจะยังดำเนินนโยบายการเงินเพื่อรักษาการฟื้นตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และรักษาเสถียรภาพอัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคที่ระดับเป้าหมายในระยะกลาง พร้อมให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางการเงิน”
ธนาคารแห่งเกาหลียังปรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเพิ่มเป็น 2.3% ในปีนี้ และ 2% ในปี 2565 ซึ่งบ่งชี้ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต
อเล็กซ์ โฮล์มส์ นักเศรษฐศาสตร์เอเชียจากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ () กล่าวว่า “ธนาคารแห่งเกาหลีชี้แจงอย่างชัดเจนว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการควบคุมความเสี่ยงทางการเงินท่ามกลางราคาบ้านและหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น ข้อมูลล่าสุดแสดงว่าทั้งสองอย่างเติบโตอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง”
ธนาคารแห่งเกาหลีใต้นับเป็นธนาคารกลางล่าสุดจากทั่วโลกที่มีความเคลื่อนไหวเช่นนี้ ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายพยายามรักษาสมดุลระหว่างการฟื้นตัวหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนส.ค. เกาหลีใต้กลายเป็นชาติเศรษฐกิจเอเชียขนาดใหญ่ชาติแรกที่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เริ่มการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของประเทศในรอบเกือบ 3 ปี
นอกจากนี้ ถือเป็นประเทศแนวหน้าของการเคลื่อนไหวระดับโลกในการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาลเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากโควิด-19 ทำให้ผู้กำหนดนโยบายตั้งเป้าที่จะปิดราคาที่สูงขึ้นและควบคุมความไม่สมดุลทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางหลายประเทศใหญ่ๆ ทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา และธนาคารแห่งอังกฤษ คาดว่าจะปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ส่วนธนาคารกลางของนิวซีแลนด์เพิ่งประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินสดอย่างเป็นทางการขึ้นหนึ่งในสี่ของจุดร้อยละเป็น 0.75% เมื่อวันพุธที่ 24 พ.ย. โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สองในสองเดือน เนื่องจากเห็นว่า อัตราการว่างงานลดลง อัตราเงินเฟ้อและราคาของอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น
ความเคลื่อนไหวข้างต้นเกิดขึ้นขณะที่รัฐบาลนิวซีแลนด์เปิดเผยแผนการเปิดพรมแดนอีกครั้งและจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาในปีหน้า ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดที่เข้มงวดต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ตั้งแต่ปิดพรมแดนในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ของโควิด-19