อีกหนึ่งเทรนด์ที่เห็นได้ชัดในช่วงที่ผู้คนจำเป็นต้องใช้ชีวิตและเวลาส่วนใหญ่อยู่ภายในที่พักอาศัยกันมากขึ้น คือ ความสนใจในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกาย
จากที่ส่วนใหญ่เคยเป็นกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการวิ่งในสวนสาธารณะ หรือการเวิร์คเอาท์ท่ามกลางผู้คนรอบข้างในยิมและฟิตเนส ได้กลายมาเป็นการออกกำลังกายภายในพื้นที่ส่วนตัว เช่น บ้านหรือคอนโดมิเนียม อย่างการคาดิโอ กระโดดเชือก หรือการวิ่งบนลู่ เป็นต้น
ซึ่งสำหรับคนรักสุขภาพไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือมือใหม่ก็มักจะอยากได้ผู้เชี่ยวชาญสักคนไว้ข้างกายเพื่อคอยบอกคอยเตือนว่าควรออกกำลังกายอย่างไร ใช้เวลาเท่าใด จึงจะมีประสิทธิภาพและได้ผลตรงตามความคาดหวัง รวมถึงคอยบันทึก ติดตามข้อมูลและใส่ใจสุขภาพของเราในทุกๆ มิติ
โดยในปัจจุบันความสามารถทั้งหมดนี้รวมอยู่ใน “สมาร์ทแบนด์” จนกลายเป็นเสมือนโค้ชประจำตัวของผู้สวมใส่ และหากสายรัดข้อมืออัจฉริยะคู่ใจมาพร้อมกับ 5 ฟีเจอร์หลักดังต่อไปนี้ รับรองได้ว่าตอบโจทย์การดูแลสุขภาพได้รอบด้านไม่ต่างจากการมีคนรู้ใจคอยเอาใจใส่เราตลอด 24 ชั่วโมง
มีโหมดติดตามการออกกำลังกายแบบสารพัดนึก ครบทุกกีฬายอดฮิต
แม้ต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านก็ไม่พลาดอัปเดตไลฟ์สไตล์และความฟิตลงโซเชียลให้เพื่อนๆ หายคิดถึง แต่จะออกกำลังกายแบบเดิมซ้ำๆ ก็กลัวคอนเทนต์จะจำเจไม่น่าสนใจ ดังนั้นการมีสมาร์ทแบนด์ที่สามารถติดตามการออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบจะเพิ่มสีสันและความสนุกสนานจนอยากจะลุกขึ้นมาเรียกเหงื่ออยู่เรื่อยๆ หรือทำชาเล้นจ์กับเพื่อนๆ เช่น ถ้าวันนี้วิ่งบนลู่แล้ว
พรุ่งนี้อาจจะเปลี่ยนไปปั่นจักรยาน กระโดดเชือก หรือเล่นสเก็ตบอร์ดในสวนหลังบ้านเพื่อให้ไม่ตกเทรนด์ ตรงนี้ต้องแนะนำเลยว่า HUAWEI Band 6 สมาร์ทแบนด์ล่าสุดจากหัวเว่ยมีโหมดออกกำลังกายให้เลือกใช้ถึง 96 โหมด ครอบคลุม 11 โหมดการออกกำลังกายทั่วไป ทั้งกีฬากลางแจ้งและในร่ม เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก และสเก็ตบอร์ด และอีก 85 โหมดที่ผู้ใช้งานสามารถปรับได้เองตามสไตล์ เช่น การเต้น กิจกรรมที่ใช้ลูกบอล และการใช้อุปกรณ์ฟิตเนส นอกจากนั้นยังตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกายได้แบบเรียลไทม์และอัตราการเผาผลาญพลังงานระหว่างออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
รู้ทันทุกย่างก้าว คอยทักเราว่า “ออกกำลังกายอยู่ใช่ไหม?”
ทุกหยาดเหงื่อที่เสียไปต้องไม่สูญเปล่า เชื่อว่าหลายคนคงเคยลืมกด start บนสมาร์ทแบนด์หรือสมาร์ทวอทช์กันบ้าง บ่อยครั้งที่กว่าจะรู้ตัวก็วิ่งไปแล้วหลายกิโลเมตร แล้วระยะทางส่วนนั้นก็ไม่ถูกบันทึกไว้เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นจริง ด้วยเหตุนี้หัวเว่ยจึงรังสรรค์เทคโนโลยีสำหรับตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ
โดยใช้เซ็นเซอร์ที่คอยวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะการออกกำลังกาย ร่วมกับอัลกอริทึมที่ตรวจจับการออกกำลังกาย ทำให้ HUAWEI Band 6 สามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานได้อย่างชาญฉลาด โดยหน้าจอของ HUAWEI Band 6 จะขึ้นข้อความแจ้งเตือนว่า “กำลังออกกำลังกายอยู่ใช่ไหม” เพียงแค่กดยืนยัน แล้วทุกรายละเอียดของการออกกำลังกายก็จะได้รับการมอนิเตอร์ในทันที
HUAWEI Band 6 สามารถตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติได้กับการเล่นกีฬา 6 ประเภท ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง, วิ่งในร่ม, เดินกลางแจ้ง, เดินในร่ม, ใช้เครื่องเดินวงรี (elliptical machine) และใช้เครื่องกรรเชียงบก (rowing machine)
การันตีความแม่นยำด้วยเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด
สำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทแบนด์อยู่แล้วจะสังเกตได้ว่ามาตรฐานในการวัดค่าของแต่ละแบรนด์อาจจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง จึงเกิดคำถามว่าผู้ใช้งานจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลถูกต้อง? สิ่งหนึ่งที่จะช่วยการันตีได้คือเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง ผ่านการทดลอง ค้นคว้า และพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งนวัตกรรมระดับนั้นมักจะอยู่ในสมาร์ทวอทช์ที่มีราคาสูง แต่อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะในค่ายหัวเว่ยรวมถึงสายรัดข้อมืออัจฉริยะอย่าง HUAWEI Band 6 มาพร้อมกับ HUAWEI TruSeen™4.0 เทคโนโลยีตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้น
โดยใช้เซ็นเซอร์หลายตัวทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ปัจจุบันเทคโนโลยีดังกลาวได้รับการพัฒนามาเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว ช่วยให้ HUAWEI Band 6 สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และแม่นยำ จึงมั่นใจได้ว่าผู้สวมใส่จะดูแลสุขภาพตนเองได้ดียิ่งขึ้น
เช็คสุขภาพจิตใจได้ด้วยการบันทึกคุณภาพการนอนหลับและการประเมินความเครียด
หลายคนคงเคยมีวันที่รู้สึกว่านอนไปหลายชั่วโมงแต่ตื่นมาแล้วยังรู้สึกอ่อนเพลียเหมือนพักผ่อนไม่เต็มอิ่ม ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกๆ คน เพราะในระหว่างที่เรากำลังหลับอยู่นั้นคงไม่สามารถบอกรู้ได้ว่าตนเองหลับลึกระดับไหน จึงเป็นไปได้ว่าหลายต่อหลายครั้งเราอาจอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่นและไม่ได้ไปถึงจุดที่เรียกว่า “หลับลึก” อย่างแท้จริง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกว่านอนไม่พอ แต่ปัญหานี้อาจมีทางแก้
หากลองสวมใส่ HUAWEI Band 6 เพราะสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี HUAWEI TruSleep™ 2.0 ที่ได้รับการพัฒนาอย่างละเอียดรอบด้านจากประสบการณ์การวิจัยและพัฒนากว่า 4 ปี โดยปัจจุบันถือเป็นเทคโนโลยีชั้นนำที่ใช้อินฟราเรดในการตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับของผู้ และยังสามารถระบุปัญหาการนอนหลับที่พบบ่อยได้ เช่น นอนไม่หลับ หลับไม่ลึก ตื่นกลางดึก หรือมีแพทเทิร์นการนอนหลับที่ผิดปกติ
HUAWEI Band 6 ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบริหารจัดการกับความเครียดได้ ด้วยเทคโนโลยี HUAWEI TruRelax™ ซึ่งพัฒนาโดยทีม HUAWEI Band 6 และสถาบันจิตวิทยาของสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (Institute of Psychology, Chinese Academy Sciences) คอยประเมินความเครียดของผู้ใช้โดยอิงจากอัตราการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้เรายังสามารถฝึกการหายใจเข้าออกโดยละเอียดอย่างมีขั้นตอนได้ด้วยตนเองอีกด้วย โดยเลือกใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health1
แจ้งเตือนวันนั้นของเดือนและตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือดได้
เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่สุภาพสตรีทุกคนปรารถนา คือการบันทึก แจ้งเตือน และประเมินรอบเดือนครั้งถัดไปของตัวเองได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่มีไว้เพื่อจะได้ไม่ลืมพกผ้าอนามัยติดตัว แต่ข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถนำไปใช้ได้กับการวางแผนคุมอาหาร การวางแผนครอบครัว และการวางแผนออกกำลังกาย
ซึ่งจะช่วยดูแลสุขภาพของสาวๆ ได้แบบครบทุกมิติ ไม่ใช่วางแผนไว้แล้วว่าสัปดาห์นี้จะวิ่งให้ได้ 5 วัน แต่ต้องมาเจอกับวันนั้นของเดือนแบบไม่ทันตั้งตัวจนอารมณ์เสีย โดยฟีเจอร์นี้ HUAWEI Band 6 มีมาให้ในรูปแบบของปฏิทินที่อ่านง่าย และสะดวกสบายเพราะดูได้โดยตรงบนจอขนาดใหญ่ของตัว สมาร์ทแบนด์เอง นอกจากนี้ HUAWEI Band 6 ยังมีฟีเจอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด2 (SpO2) เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านการออกกำลังกายโดยเฉพาะ
โดยสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนได้เมื่อระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ 90% 85% 80% และ 75% ซึ่งหากค่า SpO2 ต่ำกว่า 90 นั่นหมายความว่าระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ อาจทำให้อ่อนแรงหรือหัวใจเต้นเร็วได้ ซึ่งในระยะยาวการมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำนั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้นการรู้ระดับออกซิเจนในเลือดของตนเองในเบื้องต้นจึงมีส่วนช่วยในการบ่งบอกความเสี่ยงและทำให้เราใส่ใจสุขภาพของตนเองมากขึ้น
HUAWEI Band 6 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 1.47 นิ้ว ซึ่งนับว่าพลิกโฉมวงการสมาร์ทแบนด์ มอบประสบการณ์การใช้งานที่เทียบได้กับสมาร์ทวอทช์ และยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 14 วัน และยังเป็นครั้งแรกที่ทางหัวเว่ยจับมือร่วมกับดีไซน์เนอร์ไทย ออกแบบหน้าปัด Watch Faces3 สไตล์ไทย
ส่วนตัวสมาร์ทแบนด์มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Graphite Black, Forest Green และ Sakura Pink ในราคาเพียง 1,899 บาท โดยสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทั้ง HUAWEI Online Store, JD Central, Lazada, Shopee และหน้าร้าน HUAWEI High-End Experience Store สาขาสยามพารากอน
ทั้งนี้ HUAWEI Band 6 รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS โดยสนับสนุนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 หรือใหม่กว่า และ iOS 9.0 หรือใหม่กว่า4 หากใครสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่ รวมถึงติดตามข่าวสารอัปเดตของหัวเว่ยก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Huawei Mobile TH
บทความประชาสัมพันธ์