มีใครไม่ยอมทากันแดดกันบ้างบอกเลยว่าไม่ได้ ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่เฉพาะสาวๆ กันแล้ว กลายเป็นสิ่งที่ทุกเพศทุกวัย ต้องใช้ในเพื่อปกป้องดูแลผิวจากแสงแดดที่บ้านเรานับวันจะร้อนแรงมากขึ้นทุกที ซึ่งปีนี้กรมอุตุฯได้ออกมาเตือนแล้วว่าร้อนแน่! ครีมกันแดดจึงกลายมาเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมี และต้องใช้ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง วันนี้ Bright TV จึงมาแชร์ วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว เอาตัวรอดช่วงหน้าร้อน ป้องกันผิวไหม้กัน
- ครีมกันแดดไหม? มาดู 5 เหตุผลที่คุณจำเป็นต้องทา ครีมกันแดด กัน!
- จ้องมือถือ-คอมพิวเตอร์นาน ๆ แสบตา ปวดหัว ปวดตา ระวัง “โรคตาแห้ง”
- เคล็ดไม่ลับ 9 วิธีรับมือกับ ฝุ่น PM 2.5 ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ
ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด จัดเป็นเครื่องสำอางมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบี ที่มาจากแสงแดด ช่วยลดปริมาณรังสีอัลตราไวโอเลตที่จะมาถึงผิว โดยอาศัยคุณสมบัติของสารป้องกันแสงแดด
SPF คืออะไร?
SPF หรือ Sun Protection Factor ของผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด คือ ค่าที่แสดงถึงความสามารถของผลิตภัณฑ์ในการป้องกันการไหม้แดงของผิวหนังที่เกิดจากการสัมผัสรังสียูวีบี (UVB) โดยทั่วไปสามารถใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 และเมื่ออยู่กลางแจ้งหรือขณะเล่นกีฬาอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป
PA คืออะไร?
PA หรือ Protection grade of UVA หรือ UVAPF คือ ค่าที่แสดงถึงความสามารถของผลิตภัณฑ์ในการป้องกันอาการดำคล้ำของผิวหนังที่เกิดจากการสัมผัสรังสียูวีเอ (UVA) โดยดูจากเครื่องหมาย “+” ซึ่งมีค่าตั้งแต่ PA+ ไปจนถึง PA++++ ซึ่งแสดงถึงระดับประสิทธิภาพจากน้อยไปหามาก
ครีมกันแดดควรเลือกให้เหมาะกับผิว
1. เลือกตามการใช้งาน ควรเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ ถ้าต้องอยู่กลางแดดนาน ๆ หรือต้องเล่นกีฬาที่มีเหงื่อออก ก็ควรเลือกที่มี SPF สูงและกันน้ำได้
2. สังเกตค่า SPF ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 15 และ PA++ ขึ้นไป สามารถป้องกันได้ทั้งแสง UVA และ UVB
3. ป้องกันตัวเอง ด้วยครีมกันแดดไม่ได้ป้องกัน 100% ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดควบคู่ไปด้วย หรือหาอุปกรณ์การป้องกันแดดมาเป็นตัวช่วย เช่น หมวก ร่ม แว่นกันแดด เสื้อแขนยาว เป็นต้น
4. จำนวนครั้งที่ทาต่อวัน ถ้าอยู่ในออฟฟิศ ห้องแอร์ วันละครั้งก็เพียงพอ แต่ถ้าต้องทำงานกลางแดด โดนลม จะต้องทาซ้ำเพิ่ม ถ้าว่ายน้ำหรือเล่นน้ำ ต้องทาทุก 2-3 ชั่วโมง
5. ปริมาณ ทาครั้งละประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ หรือทาครั้งละ 1 ข้อนิ้วมือ โดยให้ทาซ้ำ 2 รอบในแต่ละครั้งราคาหรือยี่ห้อ อาจไม่สะท้อนถึงคุณภาพของสินค้าเสมอไป แต่ควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เป็นเครื่องสำอางที่จดแจ้งแล้ว และควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้
วันนี้จึงมาแชร์ครีมกันแดดน่าลองแถมสบายผิวกันบ้างจะมียี่ห้อไหนมาดูกันเลย
BIORE UV
สูตร Aqua Rich Whitening Essence (อะควา ริช วอเตอร์รี เอสเซ็นส์) SPF50+ PA++++
รีวิว : 10/10 เนื้อครีม ตัวนี้คือครีมกันแดดลูกรักของเราเลย ใครที่ยังไม่เคยลองต้องลองเพราะเนื้อเขาดีมาก ซึมง่ายไม่เหนอะหนะ แถมทาทับเมคอัพได้ เติมระหว่างวันได้ เนื้อครีมมันเบามาก สบายผิวหน้าไม่มันด้วย
ราคา : 420 บาท/ 50 กรัม
CANMAKE
ครีมกันแดดตัวดังจากญี่ปุ่น SPF50+ PA++++
รีวิว : 8/10 ตัวนี้จะมี 2 แบบด้วยกันเป็นเนื้อเจลใสกับเนื้อขาว เนื้อครีมจะคล้ายๆ กับตัว BIORE UV เลย ครีมเป็นเนื้อเจลแตกตัวเป็นน้ำ ซึมซาบลงสู่ผิวทันที แต่เคยลองแล้วรู้สึกว่าตัวนี้ซึมช้ากว่าตัว BIORE UV นิดหน่อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย
ราคา : 300 บาท/ 40 กรัม
HER HYNESS
รอยัล ไฮยา วอเตอร์ ซันสกรีน SPF 50+ PA++++
รีวิว : 9/10 ตัวนี้ก็เป็นครีมกันแดดลูกรักของหลายๆ คน เนื้อตัวนี้เบาบางมาก จะเป็นเนื้อแมทบางเบาเป็นพิเศษ ซึมเร็ว ซึมง่ายสุดๆ แต่ขอหักคะแนนตรงที่ราคาแอบแรง
ราคา : 1,490 บาท/ 30 กรัม
LAROCHE-POSAY
ลาโรช-โพเซย์ แอนเทลิโอส อินวิซิเบิ้ล ฟลูอิด SPF50+ PA++++
รีวิว : 9/10 ครีมกันแดดตัวดังอีกตัว ตัวนี้เป็นเนื้อฟลูอิด เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวที่บอบบางไวต่อแดด ระคายเคืองง่าย สูตรกันน้ำ กันเหงื่อ แต่พอทาเสร็จแล้วรู้สึกมันนิดหน่อย
ราคา : 1,450 บาท/ 50 กรัม
INGU
Super-Light Soothing Sunscreen SPF 50+ PA++++
รีวิว : จริงๆตัวนี้ยังไม่เคยลอง แต่ตัวนี้น่าลองมาก! แบรนด์น้องใหม่จากคุณอิ้งค์ ซึ่งถ้าใครมีผิวแพ้ง่ายต้องใช้ได้แน่ๆ ไม่วอก แล้วทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย
ราคา : 490 บาท/ 30 กรัม
แหล่งที่มา อาหารและยา
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY