สถาบัน ETH Zurich ของสวิตเซอร์แลนด์ เผย แก่นชั้นในของโลก จะหยุดไหลเวียนและแข็งตัวทั้งหมด จนไม่อาจช่วยรักษาสนามแม่เหล็กโลก
ผลการศึกษาล่าสุดของทีมวิจัยจากสถาบัน ETH Zurich ของสวิตเซอร์แลนด์ชี้ว่า วันที่แร่ธาตุในแก่นโลกจะหยุดไหลเวียนและแข็งตัวทั้งหมด จนไม่อาจช่วยรักษาสนามแม่เหล็กโลก รวมทั้งเสถียรภาพของอุณหภูมิและวงจรคาร์บอนของโลกได้นั้น อาจมาถึงเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากพบว่าอัตราการสูญเสียความร้อนจากแก่นโลกสู่ชั้นของเนื้อโลก (mantle) สูงกว่าประมาณการเดิมอย่างน้อย 1.5 เท่า
รายงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Earth and Planetary Science Letters ฉบับล่าสุด ระบุว่ามีการนำแร่ธาตุ Bridgmanite ซึ่งเป็นแคลเซียมซิลิเกตหรือแมกนีเซียมซิลิเกตที่พบมากในชั้นล่างของเนื้อโลก ตรงบริเวณรอยต่อที่ชิดกับผิวนอกของแก่นโลก มาทดสอบความสามารถในการนำความร้อนภายใต้อุณหภูมิและความดันสูง ซึ่งห้องปฏิบัติการจะจัดไว้ให้ใกล้เคียงกับสภาพจริงในส่วนลึกใต้ผืนโลก
ดร. โมโตฮิโกะ มุราคามิ ผู้นำทีมวิจัยบอกว่า อัตราการสูญเสียความร้อนของแก่นโลกอาจสูงกว่านั้นได้อีก เพราะเมื่อ Bridgmanite เย็นตัวลง มันจะกลายสภาพเป็นแร่ธาตุที่เรียกว่า post-perovskite ซึ่งนำความร้อนได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
“แก่นโลกจะกลายเป็นหินแข็งและหยุดการเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่เคยคาดกันไว้ แต่เรายังไม่อาจรู้ได้แน่ชัดว่า เวลานั้นจะมาถึงเมื่อใด เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่ออุณหภูมิของแก่นโลกด้วย” ดร. มุราคามิกล่าวสรุป
ข้อมูลจาก : BBC
ข่าวที่น่าสนใจ
ดับฝันนักกีฬา โจรย่องขโมยรองเท้าสตั๊ด นักกีฬาก่อนลงแข่ง ครูโพสต์เศร้าพาทีมไปไม่ถึงฝั่งฝัน
ครม. เห็นชอบ ให้ ไก่ และเนื้อไก่ เป็น สินค้าควบคุมปี 65 รวม 5 รายการ
กทม.ปรับถนนพญาไท เป็นคลื่นลูกระนาด ให้ชะลอตัวก่อนถึงทางม้าลาย ป้องกันอุบัติเหตุซ้ำรอย