สุชัชวีร์ ลงพื้นที่ห้วยขวาง หาเสียง ลั่นได้เป็นผู้ว่า จะแก้ปัญหาน้ำท่วมให้ดู มั่นใจทำได้ สายไฟหมดแน่ อินเทอร์เน็ตได้ใช้ฟรี การศึกษา ก็ศึกษาตลอด ทำได้แน่
วันที่ 17 พ.ค.2565 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียง โดยมีนายศรสุทธา กลั่นมาลี หรือถั่วแระ เชิญยิ้ม และทีมงานร่วมด้วย โดยได้พระพิฆเนศ ที่สี่แยกห้วยขวาง โดยเจ้าตัวประกาศว่า หากได้เป็นผู้ว่าสายไฟจะต้องหมดไปแน่
นายสุชัชวีร์ เผยว่า ตนเอาชีวิตและพลังทั้งหมดมาเพื่องานนี้ ตั้งใจสุดชีวิตที่จะเอาความรู้ ความสามารถ ความมุ่งมั่น พลังที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อดูแล กทม. หยุดปัญหาซ้ำซาก และช่วยพี่น้องประชาชนทุกคน มาห้วยขวางหลายครั้ง อยู่ใกล้ศาลาว่าการกทม. แต่ถนน ทางเท้า แทบเดินไม่ได้เลย ขยะเต็มไปหมด ฝนตกมาแป๊บเดียวน้ำก็ท่วม
ตนทำงานด้านนี้มาทั้งชีวิต รู้เลยว่า ปัญหาน้ำท่วมของพี่น้องชาวห้วยขวาง จะแก้ ก็แก้ได้ ลองเดินดู ไม่มีปั๊มน้ำซักตัว ตรงนี้เป็นแอ่งกระทะ ฝนตกมาต่อให้มีท่อระบายน้ำ มันก็ตกท้องช้าง น้ำไม่ไปไหน ผมตั้งใจเป็นผู้ว่าฯ มีการเพิ่มปั๊มและเป็นปั๊มไฟฟ้าทำงานอัตโนมัติ ชาวห้วยขวางน้ำจะไม่ท่วม
ตนได้พบกับวินมอเตอร์ไซค์ ร้านค้า น้องๆ ลูกๆ จนถึงโรงเรียน ผู้ว่าฯ กทม.ถ้าชื่อ “สุชัชวีร์” คนกรุงเทพฯ ได้ใช้อินเทอร์เน็ตฟรี ชีวิตเปลี่ยน ทุกคน มีลูก ตัวเองทำงาน พ่อแม่ต้องติดต่อเรื่องฉุกเฉิน อินเทอร์เน็ตฟรี ผ่านไวไฟ 150,000 จุด
เท่านั้นไม่พอ ทุกวันนี้กล้องวงจรปิดไม่เห็นมีเลย วันนี้ใครชนใคร ตรงนี้ก็ตายฟรี หกล้มก็เจ็บฟรี ฝากไว้ก่อนเถอะสายไฟ เป็นผู้ว่าฯ เมื่อไหร่จะมาจัดการให้หมด และคนกรุงเทพฯ ต้องการชีวิตที่ปลอดภัยที่สุด ถามตัวเองเดินฟุตปาธก็ยังไม่เรียบเลย ตนเดินหัวทิ่มมาแล้ว คนแก่คนเฒ่าลูกหลานเดินมาโรงเรียนจะปลอดภัยได้อย่างไร
ตนขอเป็นผู้ว่าฯ ที่เป็นช่าง มาซ่อมให้มันดี เพราะเป็นช่างต้องมีความรู้ นโยบายอะไรใครก็พูดได้ แต่ทำได้หรือเปล่าไม่มีใครรู้ แต่ถ้าผู้ว่าฯ ชื่อสุชัชวีร์ เรื่องฝนตก น้ำท่วม รถติด ฝุ่นพิษ ตนเป็นวิศวกร มีความรู้ความเข้าใจ ช่วยได้เต็มที่
นอกจากกล้องซีซีทีวี ทั้งหมดจะเป็นระบบไวไฟ พี่น้องประชาชนจะช่วยกันเป็นหูเป็นตาได้ด้วยตัวเอง 24 ชั่วโมง สำหรับพี่น้องที่อยู่ในชุมชน ตนมีนโยบายกองทุนเพื่อการจ้างงาน 6 แสนบาท สามารถจ้างงานในชุมชนได้กว่า 50,000 คน รวมทั้งต้องมีโรงเรียนใกล้บ้าน
ตนทำเรื่องการศึกษามาทั้งชีวิต ต้องการเป็นผู้ว่าฯ การศึกษา ให้โรงเรียน กทม. มีคุณภาพดีไม่แพ้โรงเรียนอื่นๆ และกทม. มีโรงพยาบาล 11 โรง แต่ใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพ มีศูนย์สาธารณสุข 69 แห่ง แต่ภายใน 4 ปีจากนี้ จะทำให้ กทม. มีโรงพยาบาลดี 80 แห่ง