เห็นตั้งแต่ต้น! พยานเล่านาที "บัสนักเรียน" ควันขึ้นหลังคา รีบช่วยโบกรถเมล์หา "ถังดับเพลิง"

Home » เห็นตั้งแต่ต้น! พยานเล่านาที "บัสนักเรียน" ควันขึ้นหลังคา รีบช่วยโบกรถเมล์หา "ถังดับเพลิง"
เห็นตั้งแต่ต้น! พยานเล่านาที "บัสนักเรียน" ควันขึ้นหลังคา รีบช่วยโบกรถเมล์หา "ถังดับเพลิง"

พยานเล่าเห็นตั้งแต่ต้น รีบช่วยโบกรถเมล์หา “ถังดับเพลิง” ขณะที่ชาดาเชื่อ “คนขับ” โดดหนีก่อนรถล็อก

(1 ต.ค.67) จากเหตุสลดรถบัสโรงเรียน พานักเรียนอนุบาลจากจังหวัดอุทัยธานี มาทัศนศึกษาในกรุงเทพฯ ก่อนเกิดอุบัติเหตุยางระเบิด เสียหลักไปเฉี่ยวชนกับแบริเออร์บริเวณเกาะกลางถนน มีวัตถุบางอย่างไปกระแทกกับถังก๊าซของรถทำให้เกิดประกายไฟ เป็นเหตุให้มีนักเรียนเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย

โดยพบว่ากำหนดการโครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่วันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567 มีดังนี้

  • 05.00 น. พร้อมกันที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆารามเวลา
  • 05.30 น. ออกเดินทางจากโรงเรียนเวลา
  • 07.00 น. รับประทานอาหารเช้าเวลา
  • 09.00 น. ถึงอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเวลา
  • 11.00 น. ออกจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเวลา
  • 12.00 น. ถึงศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ส่วนกลาง รับประทานอาหารกลางวันเวลา
  • 13.00 น. เข้าชมนิทรรศการ ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ส่วนกลางเวลา
  • 15.00 น. ออกจากศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ส่วนกลางเวลา
  • 17.00 น. รับประทานอาหารเย็นเวลา
  • 20.00 น. เดินทางถึงโรงเรียน

ต่อมา ตามรายงานของข่าวช่อง 3 ได้เปิดพูดคุยกับ นายไกรเลิศ คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนขับรถมาคู่กับรถบัสดังกล่าว รถบัสคันนี้ขับตามมาต่อกันมา 3 คัน แต่รถคันที่เกิดเหตุตนสังเกตเห็นว่าและเห็นว่าควันขึ้นหลังคารถ จึงจอดรถเพื่อที่จะหาถังดับเพลิง เป็นจังหวะที่รถเมล์ขับผ่านพอดีตนจึงได้โบกรถเมล์ให้จอดแล้วเอาถังดับเพลิงมาดับ ทุกคนพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่อยู่ด้านใน แต่ว่าไฟมันแรงมาก จึงถอยออกมาก่อน จากนั้นก็เห็นว่าไฟมันลุกแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตนมองไม่เห็นเลยว่าจำนวนเด็กมีประมาณเท่าไหร่ และไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องเลย เห็นเด็ก 2 คนวิ่งออกมามีไฟท่วมทั้งตัวพร้อมกับครูอีก 1 คน

ส่วนทางด้าน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาที่ศูนย์พักพิง ระบุว่าหลังจากนี้จะมีการส่งตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมด ไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งมีความพร้อมเรื่องเครื่องมือ ทั้งนี้ เมื่อถูกสอบถามว่าเบื้องต้นคนขับรอดชีวิตหรือไม่ นายชาดา ระบุว่า “น่าจะรอด” และเมื่อถามต่อว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุเป็นหลัก ไม่น่าเกี่ยวข้องกับสภาพรถใช่หรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เขาว่ารถมันล็อค คนขับโดดหนีไป และคาดว่าคนขับน่าจะหายไปแล้วตอนนี้ ยังตามตัวไม่ได้

ล่าสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุเบื้องต้นหลังจากได้สอบสวนพยาน สันนิษฐานว่าเกิดจากยางล้อรถยนต์ระเบิด ทำให้เกิดประกายไฟและมีถังแก๊สที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ในรถดังกล่าวจึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเข้าไปในห้องโดยสาร ส่วนตัวประเด็นคนขับรถ ที่มีกระแสข่าวว่าเป็นภารโรง ไม่ใช่คนขับรถที่มีความเชี่ยวชาญ อยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตาม จะต้องมีการตรวจสอบให้มีความชัดเจน

ขณะที่ ขั้นตอนหลังจากนี้สำหรับการตรวจอัตลักษณ์บุคคล ไม่สามารถพิสูจน์ได้ภายในที่เกิดเหตุ จะนำร่างผู้เสียชีวิตไปที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ โดยสั่งการผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานให้เราร่วมมือกับแพทย์นิติเวชในการเก็บดีเอ็นเอของร่างผู้เสียชีวิต และจะประสานกับทางญาติผู้ปกครองโดยสายเลือด เพื่อที่จะนำดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายใน 2 วัน ก่อนรับร่างไปดำเนินการตามประเพณี

ส่วนประเด็นรถบัสมีประตูฉุกเฉินแต่ทำไมเปิดไม่ได้ จากการสอบถามคุณครูทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ประกายไฟที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็วจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่ทัน ส่วนประตูนั้นมีทั้งเด็กและครูลงมาได้นั่นหมายถึงว่าประตูเปิดได้ และมีเด็กบางคนกระโดดออกทางหน้าต่าง และส่วนที่เหลือคิดว่ายังอยู่ในอาการตกใจจึงไม่สามารถออกมาได้ทัน 

  •  เช็กที่นี่ รายละเอียดเด็กนักเรียน ไฟไหม้รถบัส พบแล้วกี่คน สูญหายกี่คน เสียชีวิตกี่คน
  • อ.เจษฎ์ ถอดบทเรียน แนะผู้โดยสารสังเกต 3 อุปกรณ์สำคัญที่ “รถบัส” ทุกคันต้องมี

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ