“เศรษฐา” มองก้าวไกลชิงเปิดตัว “ปดิพัทธ์” เป็นสิทธิ ย้ำไม่มีสูตรเพื่อไทยจับมือพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล

Home » “เศรษฐา” มองก้าวไกลชิงเปิดตัว “ปดิพัทธ์” เป็นสิทธิ ย้ำไม่มีสูตรเพื่อไทยจับมือพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล
“เศรษฐา” มองก้าวไกลชิงเปิดตัว “ปดิพัทธ์” เป็นสิทธิ ย้ำไม่มีสูตรเพื่อไทยจับมือพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล

“เศรษฐา” มองก้าวไกลชิงเปิดตัว”ปดิพัทธ์”นั่งประธานสภาเป็นสิทธิ ระบุ “ประยุทธ์” ประกาศลดบทบาทการเมือง เป็นสิ่งที่คนอยากเห็นลั่นเลอะเทอะหลังมีสูตรเพื่อไทยจับมือพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เดินทางขอบคุณชาวพิษณุโลก พร้อมเปิดตัวนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ชัดเจนว่าเป็นแคนดิเดตประธานสภา ว่า ถ้าเกิดตกลงได้ว่าเป็นของพรรคก้าวไกลก็เป็นสิทธิของนายพิธาและพรรคก้าวไกลที่จะเสนอใครก็ได้ และเข้าใจว่านายพิธาเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลกพอดี

ส่วนเหมาะสมหรือไม่ที่มีการเปิดตัวขณะที่ยังพูดคุยกันระหว่าง 2 พรรคยังไม่ชัดเจนนั้น ก็ถือเป็นสิทธิของก้าวไกลที่จะให้สาธารณชนรับรู้ว่าจะให้นายปดิพัทธ์เป็นประธานสภา แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยไม่มีสิทธิที่คิดเปิดตัวแคนดิเดตประธานสภาฯในลักษณะแบบเดียวกัน เพราะคิดว่าการตกลงกันภายในเงียบๆน่าจะดีกว่า

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยเปิดตัวแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานสภากลับโดนทัวร์ลง ในระหว่างที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่รู้ว่าทัวร์ลงคืออะไร แล้วแต่จะคิด เราควรเน้นที่จุดมุ่งหมายมากกว่า เพราะเดี๋ยวตำแหน่งประธานสภาก็จะชัดเจนแล้ว และเดินหน้าต่อไปในการโหวตเลือกนายกฯ

เมื่อถามย้ำว่า ทั้ง 2 พรรคการเมืองควรหยุดออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อลดความขัดแย้งและไม่ให้ปานปลายได้หรือไม่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า เราอยู่ในสังคมประชาธิปไตย ก็มีสิทธิเสรีภาพในการพูด แต่เชื่อว่าหลายคนจะทราบว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนไม่ควรพูด

ส่วนในวันโหวตนายกฯ หากนายพิธาไม่สามารถได้เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่การโหวตในครั้งแรก จะมีทางออกอย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า คงมีสิทธิ์เสนอได้อีก แต่ส่วนตัวไม่แน่ใจนัก และไม่ทราบกระบวนการทางรัฐสภา ว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคมหรือไม่ ซึ่งอยากขอให้เป็นไปทีละขั้น และเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่าย เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยได้ โดยเร็ว เนื่องจากมีเรื่องงบประมาณปี 67 ที่ต้องคำนึงถึงด้วย

ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะลดบทบาททางการเมืองลง เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการนั้ย นายเศรษฐา ระบุว่า ถือว่าเหมาะสม เพราะประชาชนก็อยากเห็นแบบนั้น เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ขอให้เปลี่ยนผ่านไปด้วยดี ไม่มีผิดใจกันหรือมีประเด็นอะไรเกิดขึ้น ซึ่งหากพลเอกประยุทธ์ตัดสินใจลดบทบาททางการเมืองลงจริง ก็จะช่วยลดความเผ็ดร้อนและความรุนแรงลงได้

ส่วนที่มีกระแสข่าวจากพลังประชารัฐบอกว่านายกฯคนที่ 30 คือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เหมาะสมหรือไม่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า เป็นสิทธิของเขา เพราะแต่ละพรรคก็มีแคนดิเดตนายกฯ แต่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ดังนั้นจะเรียกพรรคพลังประชารัฐว่าอะไรก็เรียกไป การออกมาพูดแบบนี้ก็ต้องมาดูที่คะแนนเสียงด้วย คงเป็นเรื่องของการเมือง และตอนนี้ขอโฟกัสที่เรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่นั้นที่พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกฯคนที่ 30 นายเศรษฐา กล่าวว่า ลองนับเลขดู เพราะเลขไม่ได้เป็นหลักล้าน ใช้แค่มือนับก็ได้แล้ว เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวสูตรในการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ นายเศรษฐา มองว่า เลอะเทอะถามกี่ครั้งก็จะตอบว่าเลอะเทอะ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ