เร่งล่ามือยิง ชายวัย 60 ปี ดับ ลูกสาวเจ็บ ตำรวจเรียกพยานเข้าให้ปากคำ ยังไม่ฟันธงคนร้ายเจาะจงยิงงใคร ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านระบุในหมู่บ้านยาเสพติดชุกชุม

จากกรณี คนร้ายกระหน่ำยิงบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่1 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ทำให้ นายสมพงษ์ มีวรรณ อายุ 60 ปี เสียชีวิต หลังเพิ่งพ้นโทษได้เพียง 2 เดือน ส่วนลูกสาวของผู้ตายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ลูกเขยวิ่งหนีเอาตัวรอด ขณะนี้ยังไม่พบตัว โดยเหตุเกิดระหว่างล้อมวงกินข้าว หลังจากที่คนตายเดินทางมาเยี่ยมลูกสาวได้เพียง 2 วัน พบประวัติทั้ง 3 เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดเมื่อปี64 ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันที่ 13 ส.ค. 65 ที่ สภ.ในควน ทางพนักงานสอบสวน ได้เชิญตัวผู้เสียหายและพยานมาให้ปากคำแล้ว 3 ราย คือ นายสมปอง และ น.ส.สุภัค ผู้บาดเจ็บที่เพิ่งออกจาก รพ. และ นายสมโชค เจ้าของค่ายไก่ชน เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายขี่รถจยย.สีแดง ไม่ทราบยี่ห้อ สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ ซ้อนท้ายมาด้วยกัน 3 ราย มาจอดหน้าบ้านและมีคนร้ายเข้ามาในบ้านใช้อาวุธปืนพกสั้น ก่อเหตุยิง นายสมพงษ์ เสียชีวิต และน.ส.สุภัค ได้รับบาดเจ็บ ส่วน นายสมปอง วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้าน ก่อนเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ ตร.

ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป เบื้องต้นทางชุดสืบสวนไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี ส่วนปมเหตุยังไม่สามารถระบุได้กำลังอยู่ในระหว่างสืบสวนสอบสวน ส่วนความตั้งใจที่จะก่อเหตุนั้นยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าคนร้ายตั้งใจที่จะลงมือกับนายสมปอง หรือนายสมพงษ์

นายวิทยา สมบัติทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.1.ต.โพรงจระเข้ กล่าวว่า เมื่อคืนได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันที่บ้านไม่มีเลขที่หลังดังกล่าว ส่วน นายไก่ ลูกเขยส่วนตัวไม่ได้คลุกคลีเท่าไหร่ ปกติเขาก็ประกอบอาชีพกรีดยางพาราและหาผักไปขาย ขณะนี้ก็ต้องรอตำรวจสืบสวนหาสาเหตุ ตนยอมรับว่าในหมู่บ้านมียาเสพติดเยอะ แต่ตนไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับสาเหตุขัดแย้งเรื่องยาเสพติดหรือไม่ ผู้เสียชีวิตเป็นพ่อตาของเจ้าของบ้านเพิ่งมาอยู่ที่บ้านนี้ได้ไม่นาน ก็มาเกิดเหตุสลดดังกล่าว

ด้าน นายสมโชค อายุ 39 ปี น้องชายนายไก่ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนกำลังนอนอยู่ในบ้านจากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนดังประมาณ 3 นัด ซึ่งตอนนั้นยังคงหลบอยู่ในบ้าน ก่อนที่ นายไก่ พี่ชายจะมาเรียก ให้ไปเอารถออกมาช่วยพาคนเจ็บไป รพ. ส่วนคนตายเพิ่งมาเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม เคยมาแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ตนก็ไม่รู้ว่าใครคิดปองร้าย นายไก่ ตามปกติก็ไม่ค่อยสุงสิงกันเท่าไหร่ ต่างคนต่างทำงานมากกว่า