เมียซ่อนรถ แจ้งความเท็จว่าผัวขโมย เพื่อเรียกค่าไถ่ผัว ด้านผัวเพิ่งรู้ว่าถูกหลอก แต่งานนี้ตำรวจไม่ขำด้วย เพราะเป็นคดีอาญา และดำเนินคดีทันที
2 ก.พ. 2565 – ร.ต.อ.ทองดาว โคตรหลักคำ ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง ได้รับการแจ้งจาก น.ส.ชลดา ถุงแก้วหงษ์ อายุ 44 ปี ว่าได้ถูก นายอุทิศ นิลแสง อายุ 47 ปี สามี ทำร้ายร่างกาย และขโมยเอารถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บว-8808 ระยอง หายไป เจ้าหน้าที่จึงแจ้งสกัด พร้อมติดตามหารถคันดังกล่าวทันที
อย่างไรก็ตามล่าสุด น.ส.ชลดา และ สามี ได้เดินทางมาพบกับ ร.ต.อ.ทองดาว พร้อมระบุว่า ความจริงแล้วรถยนต์ไม่ได้หายไปไหน
น.ส.ชลดา อ้างว่า ตนเองเป็นผู้เอาไปจอดแอบไว้ที่ทะเล โดยสร้างเรื่องมาหลอกสามี เพื่อต้องการนำเงิน 10,000 บาท ไปใช้หนี้ หลังจากได้เงินจึงรีบไปเอารถกลับมา ส่วนเรื่องถูกทำร้ายร่างกายเป็นความจริง ตนถูกทำร้ายตลอด พร้อมโชว์รอยฟกช้ำตามร่างกายให้เจ้าหน้าที่ดู
นายอุทิศ กล่าวว่า ความจริงแล้ว รถยนต์ไม่ได้หายไปไหน แต่เมียมาบอกกับตนว่า เอารถไปจำนำไว้ 10,000 บาท จึงมาขอเงินไปไถ่ออกมา โดยที่ตนก็ยอมก็ให้เงินไป เพราะรถชื่อของตนเองเป็นเจ้าของ แต่เมียไม่ยอมให้ตนไปด้วย หลังเอารถกลับมาจึงรีบชวนกันมาถอนแจ้งความ โดยที่ตนยังไม่ทราบความจริงใด ๆ ส่วนเรื่องการขอเงินไปไถ่ถอนถือเป็นเรื่องปกติ เพราะมักจะนำรถไปจำนำ และกู้เงินมาเป็นประจำ จึงไม่ได้เอะใจว่าถูกหลอก
โดยทั้งสองคน ต่างวิงวอนขอให้ตำรวจถอนแจ้งความให้ เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และสัญญาว่าต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว พร้อมพยายามขอความเห็นใจกับตำรวจ
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยืนกรานว่า การแจ้งความเท็จไม่สามารถยอมความได้ เพราะเป็นคดีอาญา และเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายกับ น.ส.ชลดา ต่อไป