“เมธวิน” ปิ๊งไอเดีย ชูนโยบายแก้ปัญหาความปลอดภัย หลังป้ายหาเสียง ถูกเจาะ 30 ป้าย ชี้คนกรุงไม่มีความปลอดภัยชีวิต-ทรัพย์สิน
การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครในครั้งนี้ คึกคักเข้มข้นทันที เมื่อ 1 ในผู้สมัครมีชื่อ วิน เมธวิน อังคทะวานิช ผู้สมัคร ส.ก. เขตพญาไท เบอร์ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แต่งเพลงเอง ร้องเอง หาเสียง ขันอาสาเป็นตัวแทนของคนพญาไท ขอโอกาสเข้าไปทำงาน ด้วยสโลแกน “เปลี่ยนพญาไทให้วิน” เน้นนโยบาย 4 ด้านหลัก 1.พญาไทปลอดภัย 2.พญาไทมั่งคั่ง 3.พญาไทปลอดโรค-ใสสะอาด และ 4.พญาไทเป็นเลิศ
ซึ่งเจ้าตัวได้บอกเล่าประสบการณ์จริง ที่เกิดขึ้นกับตนเองและนำมาเป็น 1 ในนโยบายที่ใช้หาเสียงว่า จากที่ได้ลงพื้นที่ชุมชนหลายแห่งในเขตพญาไท ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงนี้สภาพเศรษฐกิจฝืดเคือง ยาเสพติดระบาดหนัก แถมยังมีพวกลักเล็กขโมยน้อย
อยากให้หน่วยงานผู้รับผิดขอบ เข้ามาดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน พอได้รับฟังเสียงสะท้อนจากชาวชุมชน ทำให้กลับมาคิดทบทวน พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับนโยบายที่ตนต้องการผลักดัน ทั้งยังเป็นประสบการณ์ตรงด้วย
“นโยบายที่ผมให้ความสำคัญ ตั้งใจทำอันดับแรก หากได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ก.เขตพญาไท คือ “พญาไทปลอดภัย” ผมจะเร่งผลักดันนโยบายเสา 4 มิติ ที่ผมได้คุยกับ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ผู้สมัครผู้ว่ากทม ให้ออกมาเป็นรูปธรรมให้เร็วที่สุดครับ เสานี้จะประกอบด้วย CCTV ไฟส่องสว่าง Internet และโซล่าเซล ที่สำคัญคือ CCTV จะติดไว้เพื่อคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากมีอะไรเกิดขึ้นอย่างน้อยยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เนื่องจากผมมีประสบการณ์ตรง หลังถูกผู้ไม่หวังดีทำลายป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ครั้งแรกถูกทำลายไป 6 ป้าย ไปแจ้งความ แล้วให้ทีมงานนำป้ายไปติดใหม่ พอวันรุ่งขึ้น ป้ายก็ถูกเจาะไปอีก 5 ป้าย ผมก็ไปแจ้งความเป็นครั้งที่ 2 ปรากฏว่า วันต่อมาถูกทำลายเพิ่มอีกเป็น 19 ป้าย รวมแล้วถูกทำลายไปถึง 30 ป้าย
คร้ังที่ 3 ผมไปแจ้งความถึง 2 โรงพัก คือ สน.บางซื่อ และ สน.พญาไท ผมบอกเจ้าหน้าที่ไปว่าป้ายหาเสียงของผมที่ติดอยู่ถูกเจาะหน้าเหมือนเดิม และเหนือป้ายมีกล้อง CCTV ติดตั้งอยู่ ผมรีบเดินทางไปที่ศาลาว่าการ กทม. เพื่อจะขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อนำมาเป็นหลักฐานหาตัวผู้กระทำผิด พบภาพผู้กระทำผิดในกล้องวงจรปิดบางจุด ส่วนอีกหลายจุดยังไม่เห็น
สิ่งที่ผมสรุปได้จากเหตุการณ์นี้คือ คนพญาไทและคนกรุงเทพไม่มีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินนี่ขนาดผม ซึ่งเปิดตัวลงทำงานการเมือง ถือเป็นบุคคลสาธารณะยังเจอแบบนี้ ถ้าเป็นประชาชนทั่วไป ที่อาจเจอเรื่องฉกชิงวิ่งราว ถูกรถชน ถูกทำร้าย หรือลูกหลานถูกกระทำอนาจาร แต่กล้องวงจรปิดของราชการกลับใช้งานไม่ได้จะไปหาพยานหลักฐานจากไหนมาดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ”