เพื่อไทย ลงพื้นที่เขตปทุมวัน รับมือไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ-ปัญหาอัคคีภัย-จัดหาที่อยู่อาศัยราคาถูก-ลดค่าเดินทางสาธารณะ-สร้างธุรกิจสำหรับคนรุ่นใหม่
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2565 น.ส.จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม เขตบางรัก สาทร ปทุมวัน พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า วันนี้ตนและนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ได้ลงพื้นที่เขตปทุมวัน พบประชาชนเพื่อรับทราบปัญหา ซึ่งนอกจากปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว ปัญหารายได้ไม่พอค่าใช้จ่ายแล้ว
ปัญหาของเขตปทุมวันยังมีปัญหาเฉพาะท้องถิ่น เช่น ปัญหาเรื่องอัคคีภัยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณบ่อนไก่ที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งต้องหามาตรการในการป้องกันและระมัดระวังอย่างชัดเจน มีการฝึกการป้องกันอัคคีภัยอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ อีกทั้งจะต้องมีนโยบายในการจัดหาที่อยู่อาศัยในราคาถูก เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่มีปัญหาที่อยู่อาศัยจากอัคคีภัย ที่ต้องโยกย้ายจากที่อยู่อาศัยเดิม
น.ส.จุฑาพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เขตปทุมวันเป็นศูนย์กลางการเดินทางของรถไฟลอยฟ้าและรถไฟใต้ดิน ซึ่งมีราคาสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ของประชาชน แนวทางในอนาคตจะต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนลดลง และเพื่อลดค่าครองชีพ อีกทั้งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยจะมีประชากรผู้สูงอายุเป็นสัดส่วนถึง 20% ของประชากรทั้งหมดในเวลาอีกไม่กี่ปีนี้
“ดังนั้น แนวทางการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ทั้งการดูแล การรักษาพยาบาล ลดเวลาการรอคอยในการพบแพทย์ และรายได้เพื่อประคองชีวิต ต้องมีแนวทางที่ชัดเจนและทำได้จริง เพราะจากประวัติศาสตร์จะพบว่าพรรคการเมืองไหนจะหาเสียงอย่างไรก็ได้ แต่พรรคการเมืองที่ทำได้จริงคือพรรคเพื่อไทยเท่านั้น” น.ส.จุฑาพร กล่าว
น.ส.จุฑาพร กล่าวว่า ที่สำคัญเขตปทุมวันเป็นพื้นที่ที่นักศึกษาและคนรุ่นใหม่ใหม่มาใช้ชีวิต พบปะสังสรรค์พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด และเป็นแหล่งสันทนาการ ดังนั้น ต้องจัดทำสถานที่เพื่อให้มีการมั่วสุมทางด้านการพัฒนาความคิด เพิ่มความฉลาดและมีทิศทางสำหรับอนาคต การจัดทำ co-working space สำหรับให้เด็กรุ่นใหม่ได้มาร่วมกันคิด ร่วมกันทำ สร้างธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ สร้างแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ โดยเปิดโอกาสและชักจูงให้ชาวต่างประเทศที่ฉลาด เก่ง และมีความชำนาญเข้ามาร่วมดำเนินการด้วย
น.ส.จุฑาพร กล่าวต่อว่า สร้างประเทศไทยให้เป็นชุมชนของคนเก่ง ฉลาด คนหัวกะทิ เพื่อพัฒนาต่อไปเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในอนาคต โดยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการส่งเสริม และทำให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง โดยต้องมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายเพื่อรองรับธุรกิจอนาคตเหล่านี้ เชื่อว่าจะสร้างนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ที่มีความฉลาด ให้เป็นเศรษฐีและมหาเศรษฐีได้เป็นจำนวนมากในอนาคต
น.ส.จุฑาพร กล่าวว่า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มจีดีพีของไทยให้มากขึ้น เพื่อลดสัดส่วนหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนของประเทศไทย อีกทั้งจะเป็นการสร้างงานที่มีรายได้สูงจำนวนมาก เพิ่มงานเพิ่มรายได้ให้กับคนรุ่นใหม่ อาจจะเริ่มโดยการพัฒนาการปรับเปลี่ยนระบบดิจิตอลในระบบรัฐ สร้างระบบบล็อกเชน และโยงเข้าสู่ภาคเอกชนให้เกิดเป็นจริงได้
“หลายปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าประเทศไทยล้าหลังไปมาก และมีปัญหาหลายด้าน ดังนั้น การต้องแก้ไขปัญหาจำนวนมาก พร้อมไปกับการพัฒนาและสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ให้กับนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลในอนาคต จะต้องเร่งเข้ามาแก้ไขและปรับเปลี่ยนประเทศ เพื่อประเทศไทยจะไม่ตกยุคและล้าหลังเหมือนในปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยพร้อมและอาสาเข้ามาแก้ไขเพื่อยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของคนไทยทุกระดับชั้น” น.ส.จุฑาพร กล่าว