ผู้นำพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (7 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทยถึงการจัดตั้งรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยมีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ การไม่แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, การไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และการไม่มีพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นพ้องกับพรรคภูมิใจไทยในจุดนี้
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยมีเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว 212 เสียง และเชื่อมั่นว่าขณะนี้มีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และจะเดินหน้าขอเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภาด้วย
“นับจากวันนี้เป็นต้นไปเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนประเทศได้เดินหน้าต่อไปโดยให้มีอุปสรรคให้น้อยที่สุดนะครับ พรรคเพื่อไทยก็ได้ให้คำยืนยันกับพรรคเพื่อไทยว่า ณ ขณะนี้ถ้ายังไม่มีพรรค ยังไม่ได้เชิญพรรคอื่นมาหารือก็ขอให้ถือว่า ณ ขณะนี้พรรคเพื่อไทยสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ให้ถือว่ามี 212 เสียงเลย คือ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยบวกกับ 71 เสียงของพรรคภูมิใจไทย” นายอนุทิน กล่าว
นอกจากนี้ นายอนุทิน กล่าวถึงการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีว่าพรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย
ชลน่านลั่นต้องเร่งแก้ปัญหาประชาชน
นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวขอบคุณทีมผู้นำพรรคภูมิใจไทยที่มาร่วมแถลงการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน และมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องเกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงฝ่ายค้าน ซึ่งคาดว่าน่าเป็นพรรคก้าวไกล ว่าถ้าหากฝ่ายค้านเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน พรรคร่วมรัฐบาลก็จะสนับสนุน และจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่
“เมื่อฝ่ายค้านเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุน” นายชลน่าน แถลง
การแถลงดังกล่าวตรงกับการแถลงขับพรรคก้าวไกลออกจากแนวร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ว่าจะเดินหน้านโยบายหลายอย่างของพรรคก้าวไกล เช่น สมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า และการปฏิรูปกองทัพ
- เพื่อไทย แถลงขับก้าวไกลพ้นตั้งรัฐบาล-ไม่แก้ ม.112 เสนอเศรษฐาชิงนายกฯ
ส่วนแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยนั้น นายชลน่านแถลงว่าหนึ่งในนั้น คือ การมีมติคณะรัฐมนตรีในวาระแรกให้จัดทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยที่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะเกิดขึ้นจากการจัดตั้ง แต่ไม่ได้ระบุว่าจัดตั้งผ่านกระบวนการสรรหาหรือเลือกตั้ง
อนุทินไม่ติดถ้ามีลุงรัฐบาล-ชลน่านโอเคถ้าฝั่งลุงยกมือให้
นายอนุทินตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า การมีพรรค “ลุง” คือ พรรคพลังประชารัฐ และ/หรือ พรรครวมไทยสร้างชาติมาร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่นั้น ไม่อยู่ในเงื่อนไข 3 ข้อดังกล่าว
“เราทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง เพื่อประเทศชาติ Best Efford” นายอนุทิน กล่าว
นายชลน่านยืนยันว่าการแถลงครั้งนี้ชัดเจนว่าไม่มีพรรค 2 ลุง แต่ว่าไม่ปฏิเสธหากมี สส. และ สว. สนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นดุลยพินิจส่วนบุคคล
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยรายนี้ เผยว่าขณะนี้การตั้งรัฐบาลยังอยู่ในขั้นเบื้องต้น ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการแบ่งกระทรวง
“ไล่หนูตีงูเห่า” แค่ขอเสียงเลือกตั้ง
นายชลน่านตอบคำถามเกี่ยวกับแคมเปญ “ไล่หนูตีงูเห่า” ว่าเป็นเพียงการหาเสียงเลือกตั้ง ยอมรับว่าเป็นคู่แข่งของแต่ละพรรค แต่ไม่เคยเป็นศัตรูกัน
“‘ไล่หนูตีงูเห่า’ มันเป็นภาพของการรณรงค์เพื่อได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง กิจกรรมแต่ละครั้งจัดบนวัตถุประสงค์นะครับ วัตถุประสงค์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ มิติทางการเมืองนะครับ เราไปขอเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน เราไม่เคยประกาศว่าเป็นศัตรูกับใครนะครับ เราเป็นคู่แข่งกันจริง เป็นเทคนิคหาเสียงวิธีการหาเสียงต่างฝ่ายต่างมี อันนี้เรียนด้วยความเคารพนะครับ เราไม่เคยคิดว่าเป็นศัตรูกันนะครับ โดยเฉพาะเพื่อไทยไม่เคยคิดว่าเป็นศัตรูกับใคร แต่ทุกพรรคเป็นคู่แข่งทางการเมืองกัน” นายชลน่าน กล่าว
ภูมิธรรมลั่นวันนี้เอาปัญหาประเทศก่อน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่าหลังถูกผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยไม่ติดใจที่มีสมาชิกพรรคแปรพักตร์หรือเป็นงูเห่าไปเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทย ว่าวันนี้ต้องเอาปัญหาประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
“ผมว่าวันนี้ต้องเอาปัญหาประเทศชาติเป็นหลัก แล้วถ้าเราจะอยากฝ่าวิกฤตของประเทศ ถ้าเราคิดเรื่องใหญ่ซึ่งเป็นวิกฤตของชาติเราเนี่ย เรามัวมาดูรายละเอียดที่เป็นเรื่องไม่ถูกอกถูกใจเนี่ย มันไปไม่ได้” นายภูมิธรรม กล่าว
นายชลน่าน กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ของพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม
นายอนุทิน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าวว่าจะมีสมาชิกพรรครวมใจไทยสร้างชาติมาเข้าร่วมกับพรรคนั้น พรรคภูมิใจไทยยังมี 71 เสียง
อนุทินตอบสื่อนอก โดนประเสริฐตัดจบ
ช่วงท้ายการแถลงข่าว นายอนุทิน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศเป็นภาษาอังกฤษ ถึงแคมเปญหาเสียงไล่หนูตีงูเห่า ว่าไม่อยากให้ประเทศอยู่ในความแตกแยกอีกแล้ว และเราควรจะ “มูฟออน” หรือก้าวไปข้างหน้า ได้แล้ว แต่ทันใดนั้นนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยก็กล่าวตัดจบทันที ทำให้ทุกคนยกมือไหว้ผู้สื่อข่าวเพื่อจบการแถลงข่าวโดยอัตโนมัติ