เพื่อไทยโหมโรง ปราศรัยใหญ่เลือกตั้งส.ก. ชู 5 นโยบายทำได้จริง ดัน 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์ นำไปสู่การคืนความมั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 18 พ.ค. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.พรรคเพื่อไทย จัดปราศรัยใหญ่ ภายใต้สโลแกน อยากใช้เพื่อไทย เลือกเพื่อไทยให้ชนะขาด ผนึกกำลังปราศรัยใหญ่ ส่งผู้สมัครส.ก.เพื่อไทยเข้าสภา กู้วิกฤตกรุงเทพฯ โดยมีสมาชิกพรรคเพื่อไทย ผู้สมัครส.ก.พรรคเพื่อไทย อาทิ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผอ.การเลือกตั้งส.ก. พรรคเพื่อไทย นายวราวุธ ยันต์เจริญ รองผอ.การเลือกตั้งส.ก. พรรคเพื่อไทย

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกรุงเทพมหานคร กทม. พรรคเพื่อไทย นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คกก.ด้านการมีส่วนร่วมฯ และนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) จำนวน 50 เขต และประชาชนนับพันคน เข้าร่วมรับฟังการปราศรัย โดยวันนี้ทีมงานได้ปรับเวทีใหม่ โดยหันหน้าเวทีไปทางเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ จากเดิมที่เวทีจะหันหน้าเข้าศาลาว่าการกทม. ภายใต้มาตรการโควิด โดยจัดตั้งจุดคัดกรองและจุดตรวจเอทีเคสำหรับผู้ที่มาเข้าร่วมงาน

ต่อมาเวลา 17.30 น. พิธีกร เชิญผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต ขึ้นบนเวที เพื่อให้กองเชียร์ มอบดอกไม้ พวงมาลัย ชูป้ายแนะนำตัว ส่งเสียงอย่างกึกก้อง

ต่อมาเวลา 18.20 น. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยหัวข้อ 9 ปี กรุงเทพฯ แช่แข็งว่า เราไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และส.ก.มา 12 ปีแล้ว การเลือกตั้งที่จะถึงนี้จะมีผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกถึง 7 แสนคน เป็นเพราะคณะรัฐประหารไม่ยอมให้เลือกตั้ง ดังนั้นในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ขอให้ทุกคนเลือกสก. พรรคเพื่อไทย

ต่อมาตัวแทนผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยนำเสนอแนวนโยบาย ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่งให้แก่คนกรุงเทพฯ อย่างถ้วนหน้า’ ของพรรคเพื่อไทย ด้วย 5 นโยบายหลัก คือ กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาทต่อปี , 50 เขต 50 โรงพยาบาล , 30 บาทถึงที่หมาย , 437 สถานศึกษาพัฒนาสร้างรายได้ และ 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์ เพื่อนำไปสู่การคืนความมั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ อีกครั้ง

น.ส.ทัดดาว ตั้งตรงเจริญ ผู้สมัครส.ก.เขตราชเทวี ปราศรัยนโยบาย 50 เขต 50 Soft Power ว่า ต่างประเทศอยากเข้ามาชิมช็อป กทม.ต้องอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ถ้าจัดโซนนิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ค้าจะทำให้ผู้ค้าขายได้ 24 ชั่วโมง รวมทั้งตัดวงจรการจ่ายส่วยให้กับเทศกิจด้วย สำหรับนโยบาย 50 เขต 50 Soft Power เป็นการปลุกของดีแต่ละเขตแต่ละย่าน โดยการจัดอีเว้นท์จัดแสดง ทำให้มีเงินหมุนเวียน พรรคเพื่อไทย ทำสำเร็จทุกโครงการ ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ครบทั้ง 50 เขต

นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ผู้สมัคร สก.เขตบึงกุ่ม ปราศรัยนโยบาย 437 สถานศึกษาพัฒนาสร้างรายได้ว่า 2 ปีที่ผ่านมา เจอโรคโควิด หลายครอบครัวสูญเสียคนในครอบครัว สูญเสียรายได้ และระบบบริหารจัดการของรัฐบาลแย่มาก นโยบาย 437 สถานศึกษาพัฒนาสร้างรายได้ ตอบโจทย์ในการเพิ่มรายได้ โดยพรรคเพื่อไทยจะเสริมทักษะเพิ่มศักยภาพ รร.ที่มีอยู่ 437 แห่ง สอนวิชาชีพเพิ่มเติม รวมทั้งเพิ่มโรงเรียนสองภาษา ขณะที่ศูนย์ฝึกอาชีพ 17 แห่ง โรงเรียนฝึกอาชีพ 11 อีก ทุกแห่งอยู่ใกล้ชุมชน พรรคเพื่อไทย จะส่งเสริมให้ประชาชนเรียนรู้เสริมสร้างให้ทุกคนมีอาชีพ

นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ผู้สมัครส.ก. เขตลาดกระบัง ปราศรัยนโยบายเดินทาง 30 บาทถึงที่หมายว่า ทุกคนเจอปัญหารถติด รถเมล์ เรือเมล์ มีไม่เพียงพอ 9 ปีที่ผ่านมาทุกอย่างเหมือนเดิม ค่ารถไฟฟ้าแพงถึง 40 % ของค่าแรงขั้นต่ำ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบาย เดินทาง 30 บาท ถึงที่หมาย โดยมี 3 ข้อ ที่แก้ปัญหาได้ ประกอบด้วย 1. รื้อระบบสัมปทานรถเมล์และรถไฟฟ้า ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของกระทรวงคมนาคม สวัสดิการขั้นพื้นฐาน ไม่ควรคิดกำไรกับประชาชน 2.เพิ่มรถเมล์ เรือเมล์ที่มีประสิทธิภาพ เอื้อประโยชน์ผู้พิการ และ 3.ตั๋วเดินรถใช้ด้วยกันทุกระบบ ทั้งรถเมล์ เรือเมล์ และรถไฟฟ้า ซึ่งพท.ทำ 30 บาท รักษาได้ทุกโรคมาได้แล้ว เดินทาง 30 บาทถึงที่หมาย ก็ทำได้เช่นกัน

น.ส.นฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตคลองสามวา ปราศรัยนโยบายกองทุนพัฒนาชุมชน หมู่บ้าน คอนโดปีละ 200,000 บาทว่า ที่ผ่านมารัฐดูแลแค่ชุมชนเท่านั้น ส่วนคนที่อยู่คอนโดไม่เคยดูแล แต่ปัญหาจะหมด ด้วยนโยบายกองทุนพัฒนาชุมชน หมู่บ้าน คอนโด ปีละ 200,000 บาท ซึ่งต่อยอดจากนโยบายกองทุน SML ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จัดสรรให้ทั้งประเทศ 10 ปี ทำให้ที่ผ่านมามีสนามกีฬาให้กับเด็กและเยาวชน มีศาลาที่พักให้กับชุมชน

นายนิกร ซัจเดว ผู้สมัคร ส.ก.เขตวัฒนา ปราศรัยนโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาลว่า คนกรุงเทพฯ เข้าถึงรพ.ที่มีชื่อเสียง ไม่ได้ทุกคน คนกรุงเทพฯ เป็นเหยื่อความล้มเหลวระบบสาธารณสุขของรัฐบาล ดังนั้นพท.จึงมี นโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล ซึ่งต่อยอดจาก 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคไทยรักไทย โดยนโยบายดังกล่าว จะทำให้ทุกคนได้รับการรักษาในเขตของตัวเอง