เพื่อนขนลุกก่อนรับศพ คนงานเหยื่อสะพานถล่ม แม่ค้าขอดูรูป บอกคนนี้มาด้วยยืนอยู่ข้างๆ

Home » เพื่อนขนลุกก่อนรับศพ คนงานเหยื่อสะพานถล่ม แม่ค้าขอดูรูป บอกคนนี้มาด้วยยืนอยู่ข้างๆ
เพื่อนขนลุกก่อนรับศพ คนงานเหยื่อสะพานถล่ม แม่ค้าขอดูรูป บอกคนนี้มาด้วยยืนอยู่ข้างๆ

เพื่อนไปซื้อพวงมาลัยก่อนรับศพ แม่ค้าพวงมาลัยขอดูรูปคนตาย บอกเห็นคนนี้ยืนอยู่ข้างๆ ไม่คิดเงินขอร่วมทำบุญ

วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ สะพานข้ามแยกถล่มขณะกำลังก่อสร้าง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ทำให้มีผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์ รวม 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ นายอรัญ หรือ เอก อายุ 24 ปี  ซึ่งญาติตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาวัดราหุล หมู่ 4 ตำบลบึงสามพัน อำเภอบึงสามพัน ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติ และเพื่อนบ้าน

โดยวันนี้ นางสาวอัญชัน  อายุ 43 ปี ผู้ที่นายอรัญไปทำงาน ได้เล่าเรื่องชวนขนลุก ว่าก่อนนำศพเดินทางกลับมาบ้าน ประมาณ 10.30 น. กำลังรอพวงมาลัยที่สั่งทำไว้ในร้านแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ทางเจ้าของร้านบอกว่าอันนี้พี่ไม่คิดเงิน ช่วยน้องทำบุญนะ พอพูดจบปุ๊บ น้องเดินไปบอกร้านข้างๆ ว่า บอกพี่สาวผมด้วยนะ ไปรอในรถ ซึ่งพี่ร้านข้างๆ บอกว่าเห็นน้องยืนอยู่ข้างเรา 

ร้านที่ขายพวงมาลัยก็เลยบอกว่า พี่จะพูดตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าเห็นน้องแต่ว่าไม่กล้าพูด ทางร้านก็เลยถามว่าขอดูรูปหน่อยได้ไหม ตนก็เลยเอารูปบัตรประชาชนน้องให้ดู ว่าคือน้องที่ตนกำลังจะไปรับศพ คือคนนี้นะ ซึ่งทั้ง 2 ร้านก็บอกว่าเหมือนกันว่า ใช่น้องคนนี้แหล่ะ ที่มายืนอยู่ข้างๆ เรา ตนเลยคิด น้องอยากกลับบ้านไวๆ หรือเปล่า ไม่แน่ใจ

นอกจากนี้ยังมีเหยื่อที่รอดตายจากเหตุการณ์เผย นาทีระทึกช่วงเกิดเหตุสะพานถล่ม โดยตอนนั้น นายวิทยา อายุ 42 ปี  ยืนยัน ตนเองอยู่ในเหตุการณ์ ประมาณช่วง 6 โมงกว่าๆ เป็นช่วงทำงานต่อไม่ได้พักกินข้าว แต่คนอื่นๆ เท่าไหร่ไม่แน่ใจ และมีผู้เสียชีวิตอีกคน ที่ร่วงลงมา ตอนแรกตนยืนอยู่กับน้องคนที่เสียชีวิต แล้วตนก็ขึ้นไปตรงช่องอุโมงค์ ไปดูตรงปลายสลิง และดูรอยร้าว ซึ่งมีรอยร้าวเดิมที่ผู้เสียชีวิตขีดเป็นสัญลักษณ์ไว้ แต่ช่วงข้างบนไม่ประสานกัน ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงเหล็กดังขึ้นเหมือนเสียงเหล็กฉีก ทีละข้าง สักพักสะพานก็ถล่มลงมา

ซึ่งตอนนั้นตนอยู่ในอุโมงค์ และอุโมงค์ก็ค่อยๆ ยุบลงมาตนก็รีบเดินถอยหลังไปอยู่อีกเสา แล้วขาตนก็ร่วงลงไป ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่เยอะ และตนเชื่อว่า ที่ตนรอดมาได้เพราะบารมีของเหรียญท้าวเวสสุวรรณและเหรียญที่ระลึก ที่ตนพกติดตัวไว้

ส่วนความช่วยเหลือเบื้องต้น ตัวแทนบริษัท บริษัทผู้รับเหมา ได้จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล เป็นเงิน 56,000 บาท ค่าลำเลียงศพ เป็นเงิน 17,000 บาท ค่าจัดงานศพ 23,000 และ ค่าใช้จ่ายในงานอีก 50,000 บาท ขณะที่บริษัทที่น้องทำงาน อยู่ก็มอบเงิน จำนวน 100,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น

ส่วนการตั้งศพเพื่อบำเพ็ญกุศล ทางญาติ เผย จะทำพิธีฌาปนกิจศพ ในวันที่ เสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2566 ที่เมรุวัดราหุล แห่งนี้

ขณะเดียวกัน ทางสำนักราชวัง โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระมหากรุณาธิคุณ จะรับศพน้องอยู่ในการดูแล ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ พร้อมทั้ง มีการประสานจากสำนักราชวัง ว่าจะหน่วยงานเดินทางมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรม ด้วย

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ