เปิดคำสั่ง! ‘พ.ต.ต.-ร.ต.ท.’ ออกราชการไว้ก่อน เอี่ยวคดียิงสารวัตรทางหลวง

Home » เปิดคำสั่ง! ‘พ.ต.ต.-ร.ต.ท.’ ออกราชการไว้ก่อน เอี่ยวคดียิงสารวัตรทางหลวง
ออกราชการ-ตร-6นาย-min

เปิดคำสั่ง! หนังสือ ออกราชการไว้ก่อน “พ.ต.ต.-ร.ต.ท.-เจ้าหน้าที่เรือนจำ” เอี่ยวคดี ช่วยผู้ต้องหา ‘กำนันนก’ ยิงตำรวจทางหลวง ‘สารวัตรสิว’ ดับ

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.66 ความคืบหน้าล่าสุด หลัง 6 ตำรวจเอี่ยวคดีสารวัตรถูกยิงเสียชีวิตถูกคุมขัง ที่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการคุมตัวตำรวจทั้ง6 นาย ไปฝากขัง ก็ได้มี หนังสือคำสั่ง ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 371/2566 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องด้วย พันตำรวจตรี เกียรติศักดิ์ สมสุข ตำแหน่ง สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน โดยต้องหาคดีอาญา ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.476/2566 ลงวันที่ 9 กันยายน 2566 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิด8วามเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ,เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้ได้รับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้นักแต่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม”

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน สถานที่เกิดเหตุภายในบ้านพักของนายประวีณ หรือนก จันทร์คล้าย กำนันตำบลตาก้อง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และมีเหตุให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎ ก.ตร. พ.ศ.2547 ข้อ 3 (1) (2) (3) คือถูกตั้งกรรมการสอบสวนโดยต้องหาคดีอาญา ซึ่งเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ ถ้าให้อยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน หรือก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและอยู่ระหว่างถูกควบคุมหรือขัง โดยเป็นผู้ถูกจับ และได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้นไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

หนังสือ-ออกราช-6ตร-1-min

นอกจากนี้ ยังมีหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ที่ 428 / 2566 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อนด้วย ร้อยตำรวจโท นิมิตร สลิตกุล ตำแหน่ง รองสารวัตร (ปฏิบัติการสายงานจราจร) สถานีตำรวจภูธร เมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด วินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน โดยต้องหาคดีอาญาข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เพื่อจะช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ,ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ,ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” เหตุเกิด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 21.30 น. ใน หมู่ที่ 2 ตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม และมีเหตุให้ออกจากราชการ ไว้ก่อนตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

  • ฝากขัง 6 ตร.กลางดึก เอี่ยวคดี ยิงสารวัตรทางหลวง-ช่วยผู้ต้องหาหลบหนี
  • คดียิงตำรวจ บิ๊กโจ๊ก ฮึ่ม! ตำรวจชั่ว หยิบปืนจากมือ หน่อง ไปช่วยซ่อน
  • วิโรจน์ ก้าวไกล เปิดคลิป! ตร.แห่ซูฮก กำนันนก กินเลี้ยงเฮฮา

ทางด้าน นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวปรากฏว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตที่บ้านกำนันนก จังหวัดนครปฐม โดยเป็นผู้ที่นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดภายในบ้านของ “กำนันนก” โยนลงน้ำนั้น

นายสิทธิฯ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรีในเรื่องดังกล่าวว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่าบุคคลดังกล่าว ที่อยู่ในคืนเกิดเหตุ คือ นายฐิตินันท์ เป็นพนักงานราชการที่มาปฏิบัติหน้าที่ในเรือนจำกลางราชบุรี เมื่อเดือน ตุลาคม 2565 ยังทำงานไม่ถึงปี และมิใช่เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเขาบินตามที่เป็นข่าว ซึ่งขณะนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้แล้ว

โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้เรือนจำฯ ประสานขอหลักฐานการจับกุมและการควบคุมตัว จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน เพื่อเร่งดำเนินการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อน รวมถึงยกเลิกสัญญาจ้าง และในส่วนของการดำเนินคดีอาญาขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

นายสิทธิฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมราชทัณฑ์ ไม่ปกป้องผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดร้ายแรง จึงต้องดำเนินการและลงโทษขั้นเด็ดขาด

หนังสือ-ออกราช-6ตร-2-min

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ