เต๊ะ ศตวรรษ ร่วมส่งดวงวิญญาณ ‘แตงโม’ เชื่อ! ประชาชนจับตามองเป็นผลดีกับคดี

เต๊ะ ศตวรรษ ร่วมส่งดวงวิญญาณ / เมื่อเวลา 11.45 น. อดีตนักร้องชื่อดัง เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร เดินทางมาร่วมพิธีฌาปนกิจและร่วมส่งดวงวิญญาณ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ เป็นครั้งสุดท้ายที่ คริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิต คลอง4 จ.ปทุมธานี

โดยก่อนที่จะเข้าไปห้องทำพิธีด้านใน เต๊ะ ศตวรรษ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “ช่วงเช้าได้ไปเคลื่อนร่างของแตงโมเพื่อบรรจุในโลง ตามหลักความเชื่อคริสเตียนคือร่างกายของเราสุดท้ายก็จะกลับไปสู่ดิน จิตวิญญาณของแตงโมไม่ได้อยู่ที่นี่แต่อยู่บนฟ้าบนสวรรค์กับพระเจ้า ทุกคนที่ไปก็ได้มีการไว้อาลัยกับแตงโม รวมถึงได้เห็นแตงโมครั้งสุดท้ายก่อนที่จะปิดฝาโลง”

“ช่วงเช้าที่ผ่านมาก็มีโอกาสได้คุยกับคุณแม่ ซึ่งก็เห็นใจคุณแม่ในหลายเรื่องที่ประดังเข้ามา แต่สาระสำคัญสุดคือวันนี้มากกว่า ที่พวกเราจะมาบอกแตงโมว่าพวกเรารักแตงโม พระเจ้าก็รักแตงโม ส่วนเรื่องของคดีต่างๆให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่กับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พวกเราทุกคนที่นี่ก็จับตามองอยู่ว่าจะไปทางไหน ข้อมูลต่างๆ ที่ออกมาอะไรที่เป็นประโยชน์กับแตงโม อันนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องดูกันยาวๆ แต่ผมอยากให้วันนี้เป็นวันที่ทั้งตัวคุณแม่เองและคนในครอบครัวที่สูญเสียบุคคลที่เขารักได้ใช้เวลาในการแสดงความอาลัยต่อลูกของเขา”

“ในฐานะพี่น้องคริสเตียน ขอบคุณพระเจ้าในการที่จะได้พูดถึงเรื่องราวของพระคริสต์ด้วยว่าจริงๆแล้วพระเยซูผู้เป็นพระเจ้าน่ารักกับแตงโมขนาดไหน แตงโมก็เป็นมนุษย์ทั่วไปเหมือนพวกเราทุกคนที่เป็นคนบาป มีข้อผิดพลาด มีข้อดี ข้อเสีย ข้อน่าตำหนิ และข้อน่าชื่นชม สิ่งที่แตงโมทำบนโลกใบนี้ตอนมีชีวิตได้สร้างเสียงหัวเราะมากมาย อาจจะมีดื้อในบางครั้ง แต่ความน่ารักของเขาที่เหลือไว้บนโลกใบนี้ก็คือความทรงจำที่ดีที่เราทุกคนควรจะระลึกถึง” อดีตนักร้องดังกล่าว

ต่อข้อถามในเรื่องทิศทางของคดีแตงโม ส่วนตัวมีความคิดเห็นอย่างไร เต๊ะ ศตวรรษ เผยว่า “ผมว่าการที่เราทุกคนจับตามองแบบนี้เป็นผลดีกับคดี เพียงแต่ว่าเราก็ต้องระวังสิ่งที่เขาพยายามจะเสิร์ฟใส่เรา อย่างที่ผมบอกว่าช่วงสองสามวันนี้คุณแม่ก็น่าจะมีเรื่องให้ต้องกังวลและเครียดเยอะ ส่วนเรื่องที่มีการเคลื่อนไหวและมีการปล่อยภาพอะไรออกมา อันนี้ไม่รู้เลยว่าเกิดจากใคร ไม่รู้ด้วยว่าผลที่ออกมามันจะเป็นผลดีหรือผลเสียด้วยซ้ำ หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นผลดี แต่หลายคนก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของคนที่ทำ ผมคิดว่าสิ่งตรงนี้น่าจะปล่อยให้เป็นไปตามหลักของกระบวนการมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของบุคคล”

“สำหรับคนที่ทำอยู่ผมคิดว่าข้อมูลที่มันเป็นประโยชน์ก็ส่งให้บุคคลที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ ส่วนข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอามาใช้ให้มันเกิดความวุ่นวายมากขึ้น เป้าหมายสำคัญคือถ้าคุณมองว่าทุกสิ่งทำเพื่อแตงโม สติปัญญาของคนทั่วไปจะเข้าใจได้ว่าสิ่งไหนที่ควรจะทำ สิ่งไหนที่เป็นเรื่องส่วนบุคคล คำถามคือวันนี้เรากำลังเข้าสู่การล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีความหรือเปล่า ผมได้เห็นข่าวแล้วก็ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนที่น่ารักที่ได้เห็นภาพหรือข้อมูลอะไรบางอย่างแล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี หรือมันไม่ได้นำไปสู่ความยุติธรรมที่แตงโมจะได้รับ เราก็อย่าไปใส่ใจกับสิ่งพวกนี้” เต๊ะ กล่าวทิ้งท้าย