จากเหตุสลด โรงงานพลุระเบิด สุพรรณบุรี ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 15.40 น.ของวันที่ 17 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาโดยสาเหตุของความสูญเสียในครั้งนี้ เกิดจากการวางท่อยิงพลุเอียง ทำให้พลุพุ่งเข้าไปในกองพลุที่ยังไม่ได้ยิง และที่จัดเก็บพลุสำรองใกล้สถานที่จุดและใกล้บริเวณชุมชน จึงทำให้เกิดระเบิดขึ้นเผาวอดหมดทั้งโรงงาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นภรรยา และลูกเจ้าของโรงงาน และคนงาน รวมทั้งสิ้น 22 ราย อีกทั้งยังมีรายงานการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพิ่มมาอีก 2 รายขณะเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว
ล่าสุด 18 ม.ค. 67 แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทาง Thai PBS เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ โรงงานพลุระเบิด สุพรรณบุรี ระบุว่า
“จากเหตุการณ์โรงงานผลิตพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ยังส่งผลโดยอ้อมกับประชาชนรอบชุมชน เพราะส่วนประกอบของแก๊ส คือ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ที่พบในสารตั้งต้นของดินปืน อาจจะทำให้เกิดควันหรือสารพิษในระยะสั้น ก่อให้เกิดการระคายเคืองดวงตาและผิวหนัง อาการหอบหืด หูอื้อจากเสียงระเบิด และยังก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วย…
จึงขอแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาก KN94 เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและกลิ่นของสารเคมี และขอให้ประชาชนในพื้นที่ควรอยู่ในระยะที่ปลอดภัย ตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่ ถ้าพบว่ามีอาการระคายเคืองผิวหนัง ดวงตา ทางเดินหายใจให้พบแพทย์ทันที”
ที่มา : Thai PBS