เตือนแล้วนะ 5 อาหารปรุงไม่สุก กินไประวัง “ทำร้ายตับ” เป็นพิษต่อสุขภาพ

Home » เตือนแล้วนะ 5 อาหารปรุงไม่สุก กินไประวัง “ทำร้ายตับ” เป็นพิษต่อสุขภาพ
เตือนแล้วนะ 5 อาหารปรุงไม่สุก กินไประวัง “ทำร้ายตับ” เป็นพิษต่อสุขภาพ

เตือน 5 อาหารปรุงไม่สุก เป็น “พิษ” ทำลายตับ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เมนูที่คุ้นเคยและหลายคนมักเข้าใจผิด

แม้ว่าเราทุกคนต่างรู้ดีว่าการทานอาหารนอกบ้าน มีความเสี่ยงเล็กน้อยที่จะเกิดอาหารเป็นพิษ เนื่องจากเราไม่สามารถควบคุมวัตถุดิบและขั้นตอนการปรุงได้ทั้งหมด แต่พวกเราหลายคนกลับประเมินความเสี่ยงในการรับประทานอาหารในบ้านของตัวเองต่ำเกินไป

โดยเรื่องที่หลายคนทำพลาดก็คือ ไม่รู้ว่าวัตถุดิบบางชนิดอาจเป็นพิษได้หากไม่ได้ปรุงอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะเมื่อปรุงไม่สุกดังรายชื่ออาหาร 5 อย่างที่เว็บไซต์ SOHA ย้ำเตือนว่าเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วย หากรับประทานโดยไม่ได้ปรุงอย่างทั่วถึง

ไก่

ไก่ดิบปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย เช่น แคมไพโลแบคเตอร์ อีโคไล และซัลโมเนลลา ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ไก่ที่มีการปนเปื้อนของเชื้อ อาจทำให้เกิดอาการร้ายแรงบางอย่าง เช่น อาเจียน ท้องเสีย และมีไข้ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาการเหล่านี้มักจะไม่รุนแรง แต่ก็มีเคสที่ผู้ป่วยบางรายต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

นั่นเป็นเหตุว่าทำไมการปรุงไก่ให้สุกจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก แม้ว่าเวลาที่แน่นอนในการปรุงไก่จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดและความหนาของเนื้อ แต่โดยทั่วไปแล้ว การปรุงไก่ให้มีอุณหภูมิภายในอยู่ที่ 165 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 73 องศาเซลเซียส) ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด

มันฝรั่ง

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ. 2522 เคยมีข่าวเด็กชาย 78 คนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเกิดล้มป่วยกะทันหัน มีอาการอาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง และมีไข้ จนกระทั่งฝ 5 วันต่อมา อาการทั้งหมดก็หยุดลง ปรากฏว่าผู้ร้ายคือถุงมันฝรั่งที่ถูกเก็บไว้ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนแล้วนำมาต้มเสิร์ฟให้เด็กๆ เป็นส่วนหนึ่งของอาหารประจำวัน

มันฝรั่งเหล่านี้มีโซลานีนในระดับสูงอย่างน่าตกใจ ซึ่งเป็นสารพิษในกลุ่มไกลโคอัลคาลอยด์ ที่สามารถพบได้ในพืชตระกูลมะเขือเทศเช่นกัน นี่เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าสารพิษจากมันฝรั่งอาจเป็นอันตรายได้อย่างไรหากเตรียมไม่ถูกต้อง

ดังนั้น เพื่อให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ควรต้มหรืออบให้ทั่วถึง เพื่อลดปริมาณไกลโคอัลคาลอยด์ และอุณหภูมิที่สูงระหว่างการปรุงอาหารยังทำลายเลกตินของมันฝรั่งอีกด้วย ซึ่งเป็นโปรตีนที่จับกับคาร์โบไฮเดรต อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนและท้องเสียได้ หากบริโภคในปริมาณมาก

เห็ด

เห็ดมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โซเดียมต่ำ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย พวกมันยังมีผนังเซลล์ที่แข็งแรงซึ่งทำจากคาร์โบไฮเดรตที่เรียกว่าไคติน เมื่อปรุงสุกจะทำให้ร่างกายย่อยได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งทำลายแบคทีเรียในระหว่างขั้นตอนการปรุงอาหาร ช่วยให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอาหารเป็นพิษ เช่น กรณีเมื่อต้นปี พ.ศ. 2567  เหตุการณ์ที่ร้านอาหารในรัฐมอนทานา สหรัฐอเมริกา มีลูกค้าป่วย 51 คน  และเสียชีวิต 2 คน หลังรับประทานอาหาร

แน่นอนว่าอาหารทุกชนิดก็สามารถปนเปื้อนได้ แต่สิ่งที่ทำให้เห็ดมีลักษณะพิเศษคือ การมีสารอะการิทีนอยู่ในเห็ดบางชนิดซึ่งนี่คือสารเคมีที่ทำให้หลายคนเกิดความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในการก่อให้เกิดมะเร็ง โดยการศึกษาของหอสมุดการแพทย์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา สรุปผลวิจัยในเรื่องนี้ว่า เห็ดก่อมะเร็งน้อยลงหลังจากผ่านการปรุงสุก

หน่อไม้

แพนด้าอาจจะกินหน่อไม้ดิบเป็นประจำ แต่ไม่ได้หมายความว่ามนุษย์ควรทำเช่นนั้น… แม้ว่ามันจะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น วิตามินบี 6 โพแทสเซียม และทองแดง แต่ก็มักเต็มไปด้วยสารเคมีที่เรียกว่าไซยาโนเจนิกไกลโคไซด์ ซึ่งสามารถปล่อยไฮโดรเจนไซยาไนด์ออกมาได้เมื่อเคี้ยวมัน

ซึ่งแพนด้าสามารถกำจัดพิษได้ แม้ว่าร่างกายมนุษย์จะไม่มีความสามารถเช่นนั้น แต่ก็ยังมีวิธีอื่นที่สามารถกำจัดพิษได้ โดยในการเตรียมหน่อไม้ให้เหมาะสม จำเป็นต้องลอกเปลือกด้านนอกออก ต้มเป็นเวลาประมาณ 20 นาที ถึง 2 ชั่วโมง (หรืออย่างน้อยจนหน่อไม้นิ่ม) จากนั้นจึงเช็ดให้แห้งก่อนนำไปปรุง

เนื้อหมู

เนื้อสัตว์ทุกชนิดอาจปนเปื้อนแบคทีเรียหรือปรสิตได้ แต่เนื้อหมูมักถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เนื่องจากมีความอ่อนไหวต่อปรสิตประเภททริคิเนลล่า สไปราลิส (Trichinella spiralis ) ซึ่งเป็นพยาธิตัวกลม ที่สามารถทำให้ติดเชื้อโรคไตรคิโนซิส

ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะติดพยาธิตัวตืดหมู Taenia solium หรือ Taenia asiatica ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อพยาธิตัวตืด หรือ โรคจากไข่พยาธิตัวตืด ได้ วิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดภัยคุกคามเหล่านี้ คือการปรุงหมูให้สุกทั่วถึง ซึ่งตามข้อมูลที่ USDA ระบุ อุณหภูมิภายในที่เหมาะสมสำหรับเนื้อสัตว์ควรอยู่ที่ 145 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 63 องศาเซลเซียส) 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ