เติร์ก Gym And Swim รับผิด คิดเหยียดจนเป็นนิสัย ชี้ผลพวงของวัยคึกคะนอง ลั่นจะเป็นคนที่ดีขึ้น ล่าสุดปิดคอมเมนต์เฟซบุ๊กแล้ว
หลังเป็นดราม่าร้อนแรง เมื่อแฮชแท็ก #แบนgymandswim ทะยานขึ้นอันหนึ่งในทวิตเตอร์ แม้ค่ายเพลงจะออกขอโทษและลงโทษทั้งวง รวมถึงเติร์ก มือกีตาร์ สมาชิกวงอินดี้ Gym And Swim ด้วยการพักงานอย่างไม่มีกำหนด แต่ไม่สามารถดับดราม่าลงได้
ต่อมาเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา เติร์ก มือกีตาร์ สมาชิกวงอินดี้ Gym And Swim โพสต์แถลงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ขออนุญาตแถลงครับ ผมเติร์ก จากวง Gym and Swim ก่อนอื่นเลยต้องแจ้งว่าความเห็นที่เป็นประเด็นทุกประเด็นในขณะนี้เป็นความเห็นของผมแต่เพียงผู้เดียว มิใช่ฉันทามติ หรือความคิดเห็นใดของสมาชิกวง Gym and Swim ท่านอื่นๆ ประเด็นเรื่องการใช้คำที่ไม่เหมาะสม ในโพสต์หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับบิวกิ้น และพีพี ผมขอยอมรับว่าถ้อยคำดังกล่าวเป็นถ้อยคำที่ไม่เหมาะ และขออภัยในการใช้คำดังกล่าว
โดยส่วนตัวแล้วผมเปิดกว้างและเคารพในเรื่องเพศวิถี ที่แตกต่าง หลากหลาย และหลงใหลในวัฒนธรรม LGBTQIA+ ซึ่งเป็นความสวยงามของสังคมสมัยใหม่ และตัวผมเองก็มีเพื่อนๆ ในวัฒนธรรมดังกล่าวที่น่ารักและเป็นกัลยาณมิตรที่ดี โดยการใช้ถ้อยคำดังกล่าวนั้นมีลักษณะเป็นการไม่ให้เกียรติความหลากหลายทางเพศวิถีอย่างแท้จริง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอ่อนด้อยทางวุฒิภาวะในการสื่อสาร ซึ่งผมขอน้อมรับคำติ และขออภัยผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านในประเด็นนี้เป็นอย่างสูงครับ
โดยผมจะนำประสบการณ์และบทเรียนในครั้งนี้ไปปรับปรุง วิธีคิดและการแสดงออกของผมให้มีความเหมาะสมต่อไปในอนาคต เพื่อเป็นการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรมต่อไป เพื่อให้สังคม และวัฒนธรรมนี้พัฒนาไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น
ประเด็นที่สองที่ต้องการจะพูดถึง คือการวิพากษ์ไลน์อัพของมิวสิคเฟสติวัลนั้น ความคิดเห็นดังกล่าวเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม ซึ่งการการแสดงออกมาโดยประชดประชันและขาดความยั้งคิด ซึ่งก่อให้เกิดความรำคาญใจ หรือไม่สบายใจ ส่วนนี้ผมขออนุญาตขออภัยในการแสดงความคิดเห็นโดยใช้ถ้อยคำดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งครับ”
จากนั้น เติร์ก ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @youngterque ระบุว่า “ตอนนี้เรื่องไปไกลมากๆ แล้วจนได้มีการขุดทวิตเก่าๆ เมื่อ 10 ปีที่แล้วของผม ที่มีถ้อยคำที่ผมเองก็อยากจะลืมมันไปด้วยซ้ำครับ เพราะกลับมาอ่านตอนนี้ มันน่ารังเกียจมากๆ เพราะในอดีตผมขอยอมรับเลยว่า ผมเป็นเด็กที่นิสัยไม่ดีคนนึง ที่เคยมีความคิดเหยียดเพศ และความคิดที่คึกคะนองตามวัย
เรียกได้ว่าเป็นจุดอ่อนของผมจุดนึง ซึ่งกว่าผมจะได้รู้ซึ้งถึงการใช้ตรรกะความคิด และการให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ แบบที่ควรจะเป็นก็หลังจากที่ผ่านการเรียนรู้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งใช่ครับมันยังคงมีนิสัยเสียๆ ที่ติดมาจากอดีต ซึ่งเห็นได้จากเหตุการณ์ล่าสุดที่้เกิดขึ้นครับ
ผมยอมรับครับว่าผมในอดีต คือคนที่ไม่ควรจะได้รับการให้อภัยใดๆทั้งสิ้น เพราะตัวผมเองในตอนนี้ก็รับความคิด และทัศนคติตัวเองตอนนั้นไม่ได้เลยเช่นกัน ทุกทวีตที่ทุกท่านรีทวีตกลับมามันทำให้ผมเจ็บปวดทุกครั้ง ที่เห็นความคิดตัวเองในตอนนั้น ผมรู้สึกผิดในทุกทวีตที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ใช่ครับ ผมอยากเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆวัน ผมแก้ไข อดีตไม่ได้แล้ว แต่ในอนาคตผมจะต้องเป็นคนที่ดีกว่านี้ให้ได้ครับ”