รองผู้ว่าฯ สกลนครแถลงข่าวขอโทษกรณีปล่อยให้มีการจัดงานเล่นน้ำสงกรานต์ ขณะที่ตำรวจเรียก 3 รายรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
จากกรณีปรากฎภาพมีผู้คนออกมาจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ เต้นกับรถเครื่องเสียง มีการดื่มสุรา แต่ละคนไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือสวมไว้ใต้คาง ณ วัดสุปัฎชัยยาราม บ้านนากับแก้ หมู่ที่ 5 ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา
ซึ่งวานนี้ (14 เม.ย.) นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอเมืองสกลนคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ) อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ได้เข้าแจ้งความกลุ่มคนดังกล่าวที่ฝ่าฝืนคำสั่งฯ ที่สถานีตำรวจภูธรดงมะไฟแล้ว
- เพจดังแฉ “สงกรานต์สกลนคร” สาดน้ำ-เปิดเพลงเต้นสนุกสนาน ชี้โควิดวันละหมื่นคงอีกไม่ช้า
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (15 เม.ย.) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสกลนคร ศาลากลางจังหวัดสกลนคร นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร แจ้งข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เนื่องจากมีภาพการเล่นสงกรานต์ออกมาทำให้หลายท่านเกิดความไม่สบายใจ อยากจัดประเพณีสงกรานต์กระทำได้ แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขของคำสั่งของจังหวัดสกลนคร เพื่อป้องกันการเกิดโรคติดต่อ และขอกราบขอโทษที่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ทางเจ้าหน้าที่ก็เข้าไปดูแลอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก
ส่วน นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอเมืองสกลนคร กล่าวว่า ตามที่มีภาพในสื่อที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์ จัดงานสนุกสนานรื่นเริง ที่บ้านนากับแก้ หมู่ที่ 5 ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร จากการตรวจสอบพบว่าที่วัดแห่งนี้มีการจัดกิจกรรมทำบุญบ้านในวันที่ 12 เมษายน 2564
ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านได้เข้ามาขออนุญาตขอจัดงานทำบุญบ้าน และขอมีการแสดงดนตรีในราคาไม่เกิน 20,000 บาท ได้อนุญาตไปแต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ในการอนุญาตทุกครั้งจะต้องทำบันทึกข้อตกลงว่าต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่วางไว้ และวันที่ 12 เมษายน 2564 ได้มีการจัดงานและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนภาพที่ปรากฎอยู่ในคลิปคือวันที่ 13 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 15.00 น. คนในหมู่บ้านนั้นได้ไปจ้างรถแห่ พร้อมเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งในการจัดงานวันที่ 13 ไม่ได้มีการขออนุญาตและไม่ได้รับการอนุญาตให้จัดกิจกรรมในการร่วมกลุ่ม ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสกลนคร ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีไปเรียบร้อยแล้ว
และได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องโทษฐานที่ปลอดปละละเลยทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคตทางเราจะดำเนินการตามกฎหมายทุกกรณี
ขณะที่ พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร กล่าวว่า ตำรวจและฝ่ายปกครองได้ตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงตามภาพที่ปรากฎตามสื่อออนไลน์ มีการเล่นน้ำสงกรานต์ฝ่าฝืนกฎหมาย และได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดทุกราย
และวันนี้ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมา 3 ราย มารับทราบข้อกล่าวหา ประกอบด้วย ผู้ว่าจ้างงาน ผู้ติดต่องาน และคนขับรถ จะดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนในสถานการณ์ฉุกเฉิน เรื่องการชุมนุม รวมตัวกันอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 และการใช้เสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นอีก ขออนุญาตกราบเรียนว่าทางตำรวจภูธรสกลนครไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้ละเลย ได้สั่งการให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดทุกราย
ด้าน นพ.ธาราพงษ์ กัปโก นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) สำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ขณะนี้ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 14 เมษายน 2564 เวลา 17.30 น. ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร ได้แจ้งว่าจังหวัดสกลนคร ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มอีก 2 ราย (รายที่ 11 และรายที่ 12) ในการระบาดระลอกใหม่ ทำให้ขณะนี้จังหวัดตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 รวมสะสมระลอกใหม่ 12 ราย ส่วนใหญ่ติดมาจากสถานบันเทิง ทางเราจึงได้มีคำสั่งปิดสถานบันเทิง
ก่อนหน้านี้พบว่ามีคนที่ไปทำงานสถานบันเทิงแล้วกลับมาบ้าน ทำให้เราพบผู้ปวยในวงที่ 2 มาติดในพื้นที่ บางกรณีมีคนที่กักตัวไม่ดี ยังออกไปสังสรรค์งานเลี้ยง ชุมนุมรวมตัวกัน เนื่องในวันสงกรานต์ กลุ่มนี้จะเกิดความเสียงเป็นอย่างมาก เมื่อการความเสี่ยงในวงที่ 2 และวงที่ 3 ทำให้ตอนนี้เรามีคนไข้อัพเดท 17 คน กระจายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สถานการณ์การแพร่ระบาดในช่วงก่อนสงกรานต์เป็นการแพร่ระบาดออกต่างจังหวัด และต่อจากนี้จะเป็นการแพร่ระบาดภายในจังหวัด ทางสาธารณสุชจึงไม่อยากให้เกิดการรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ การใส่แมส การล้างมือ การรักษาระยะห่าง ลงทะเบียนแอพไทยชนะ ยังเป็นมาตรการที่สำคัญ ป้องให้ห่างไกลจาก COVID-19