ในวันนี้ (7 ธ.ค.) เจ้าหญิงคาทารีนา-อามาเลีย เบียทริกซ์ คาร์เมน วิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งเนเธอร์แลนด์ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 18 พรรษา ถือได้ว่าทรงเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวและบรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย

ในโอกาสพิเศษเช่นนี้ นอกจากการลั่นระฆังในเวลาเช้า 9.00 น. พร้อมกันทั่วประเทศ และการบรรเลงเพลง “อามาเลีย 18 ปี” ที่แต่งขึ้นโดยราชสมาคมระนาดโลหะ Glockenspiel แล้ว ไม่มีการเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการที่ยิ่งใหญ่ตามพระเกียรติยศ อย่างที่หลายคนเคยคาดหวังไว้แต่อย่างใด

บรรดาผู้ที่ชื่นชมรักใคร่ในพระจริยวัตรอันเรียบง่ายของเหล่าสมาชิกราชวงศ์ออเรนจ์ (House of Orange) ต่างคุ้นเคยกับบรรยากาศเงียบสงบในวันสำคัญของสถาบันกษัตริย์เช่นนี้ดี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พิเศษและแตกต่างออกไปในปีนี้คือการออกหนังสือชีวประวัติเล่มแรกขององค์มกุฎราชกุมารี ซึ่งเท่ากับเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้เกี่ยวกับว่าที่สมเด็จพระราชินีนาถมากขึ้น หลังมีการปกป้องความเป็นส่วนพระองค์ไว้อย่างสูงในระหว่างที่ยังทรงพระเยาว์

RVD HANDOUT/REUTERS
เจ้าหญิงอามาเลียทรงลองสวมมงกุฎขณะมีพระชนมายุ 9 พรรษา

• นายกฯ ดัตช์ชี้ มกุฎราชกุมารีสามารถอภิเษกสมรสกับสตรีได้
• กษัตริย์นักบินตรัสขอโทษคนเนเธอร์แลนด์
• สมาชิกราชวงศ์ยุโรปทำงานเลี้ยงชีพกันอย่างไร

การศึกษาแบบสามัญชน

หนังสือชีวประวัติของเจ้าหญิงอามาเลียเล่มนี้ ได้พระราชทานอนุญาตให้ คลาวเดีย เดอเบรย์ นักแสดงตลกชาวดัตช์เป็นผู้เขียนขึ้นจากถ้อยคำในการพระราชทานสัมภาษณ์ โดยหนังสือเผยถึงชีวิตในวัยเรียนขององค์มกุฎราชกุมารีว่า ทรงเข้าเรียนที่โรงเรียนรัฐใกล้กับพระราชวังในกรุงเฮก โดยโปรดปรานการขี่จักรยานไปโรงเรียนเหมือนกับเด็กนักเรียนส่วนใหญ่

ขณะนี้ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายของนิกายโปรเตสแตนต์แล้ว และได้ปฏิบัติตามธรรมเนียมของวัยรุ่นชาวดัตช์ ซึ่งจะเอากระเป๋านักเรียนไปแขวนไว้กับธงชาติเหนือหลังคาบ้านเมื่อเรียนจบ ทำให้ตอนนี้หลังคาส่วนหนึ่งของพระราชวัง Huis Ten Bosch มีสัญลักษณ์แปลกตานี้อยู่เช่นกัน

เจ้าหญิงอามาเลียนั้นเหมือนกับวัยรุ่นชาวยุโรปทั่วไป ที่มักจะใช้เวลาหลังเรียนจบชั้นมัธยมปลายพักเรื่องการเรียนต่อเอาไว้ก่อนราว 1 ปี เพื่อออกเดินทางท่องโลกหรือแสวงหาประสบการณ์ด้านอื่น ๆ โดยในปีนี้ทรงไปสมัครงานเป็นบริกรในคลับริมชายหาดแห่งหนึ่ง พร้อมกับฝึกเป็นบาร์เทนเดอร์ผสมเครื่องดื่มนานาชนิดอีกด้วย เจ้าหญิงตรัสว่าทรงผสมเครื่องดื่มได้รสชาติไม่เลว จนได้รับฉายาว่า “ราชินีค็อกเทล”

ก่อนหน้านี้ทรงปฏิเสธไม่รับเงินรายได้ 1.6 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งเป็นเงินที่รัฐบาลจะถวายให้ตามสิทธิเมื่อทรงบรรลุนิติภาวะ เจ้าหญิงตรัสว่าทรงรู้สึก “ไม่สบายใจ” ที่จะรับเงินดังกล่าวในตอนนี้ เพราะยังไม่ได้เริ่มทรงงานอย่างเป็นทางการ หรือทำสิ่งใดเป็นชิ้นเป็นอันที่สมควรจะได้รับค่าตอบแทน

ชีวิตวัยรุ่นว้าวุ่นเป็นธรรมดา

การที่เติบโตขึ้นมาในพระราชวังอย่างผู้สูงศักดิ์ ไม่ได้ทำให้เจ้าหญิงอามาเลียแตกต่างจากวัยรุ่นธรรมดาทั่วไปมากนัก แม้แต่ในเรื่องของการคบหาเพื่อนฝูงและความรักของหนุ่มสาว

ทรงกล่าวถึงคนรักในฝันในหนังสือชีวประวัติของพระองค์ว่า ผู้ชายเยอรมันนั้นดูห้าวหาญองอาจกว่าหนุ่มชาวดัตช์มาก แต่หากถึงเวลาที่จะต้องเลือกคู่ครองแล้ว จะขอเลือกคนที่รักและต้องการร่วมชีวิตด้วยอย่างแท้จริง แม้รัฐธรรมนูญของเนเธอร์แลนด์จะกำหนดไว้ว่า รัฐสภาจะต้องเห็นชอบกับตัวบุคคลที่จะทรงอภิเษกสมรสด้วยก่อนก็ตาม

RVD HANDOUT/REUTERS
เจ้าหญิงอามาเลีย (ที่สองจากขวา) กับพระขนิษฐาสองพระองค์ รวมทั้งพระราชบิดาและพระราชมารดา

“ถ้ารัฐสภาไม่อนุมัติ ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าฉันจะทำยังไง ฉันไม่อาจเลือกคู่ครองโดยต้องยอมเป็นฝ่ายสูญเสีย ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็ไม่สามารถจะรับใช้ประเทศชาติอย่างดีที่สุดได้” เจ้าหญิงอามาเลียตรัส

ในฐานะพระราชวงศ์ของเนเธอร์แลนด์ ชีวิตรักและชีวิตคู่ย่อมเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น ๆ ของประเทศได้บัญญัติเอาไว้ ซึ่งในกรณีของการสมรสระหว่างเพศเดียวกันนั้น เนเธอร์แลนด์ได้ให้สิทธิเสรีภาพแก่ผู้มีความหลากหลายทางเพศเท่าเทียมกับคู่สมรสชายหญิง แม้แต่ในกรณีของพระรัชทายาทอย่างเจ้าหญิงอามาเลีย นายกรัฐมนตรีรักษาการ มาร์ก รุตเตอ ยังเคยชี้แจงแถลงไขเอาไว้ว่า กษัตริย์หรือราชินีสามารถอภิเษกสมรสกับบุคคลเพศเดียวกันได้ โดยไม่ต้องสละสิทธิ์ในการขึ้นครองราชย์

ยังต้องคอยดูกันต่อไปว่าเจ้าหญิงอามาเลียจะทรงเลือกเส้นทางรักแบบไหนในอนาคต แต่ที่ผ่านมา ชีวิตรักในวัยเรียนของพระองค์นั้นไม่สู้จะสดใสงดงามนัก โดยในช่วงมัธยมต้นเคยมีเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกันมาชอบพอ ทำให้ทรง “โล่งใจ” เป็นอย่างมากว่ามีคนที่กล้าเข้ามาสานสัมพันธ์ แต่ในที่สุดทรงเลือกคบหากับหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งทราบในภายหลังว่าเข้ามาตีสนิทเพียงเพราะได้เดิมพันไว้กับกลุ่มเพื่อนของตน

RVD/REUTERS
สาธารณชนรู้เรื่องราวส่วนใหญ่ของเจ้าหญิงอามาเลียจากหนังสือชีวประวัติที่คลาวเดีย เดอเบรย์ (ซ้าย) เป็นผู้เขียน

การที่อกหักหรือผิดหวังในความรัก แม้จะทำให้ทรงเศร้าเสียใจแต่เจ้าหญิงอามาเลียกลับมองว่า การปลดปล่อยระบายอารมณ์เหล่านี้ออกมาไม่ใช่การแสดงความอ่อนแอ แต่เป็นการดูแลรักษาสุขภาพจิตซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสุขภาพทางกาย เจ้าหญิงทรงพูดคุยกับจิตแพทย์อย่างเปิดเผยบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนที่มักถูกสังคมกดดันให้เก็บซ่อนอารมณ์ของตนเองอยู่เสมอ

องค์มกุฎราชกุมารีแห่งเนเธอร์แลนด์ตรัสว่า “บางครั้งเรื่องจุกจิกต่าง ๆ มันก็มากเกินไปสำหรับฉัน ทั้งโรงเรียนเอย เพื่อนเอย…ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวอยากจะระบาย ฉันจะนัดพบจิตแพทย์ทันที การพูดคุยกับมืออาชีพอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก ๆ”

ชาวดัตช์นิยมชมชอบพระองค์หรือไม่ ?

แม้ที่ผ่านมาเจ้าหญิงอามาเลียจะไม่ได้ปรากฏพระองค์ทางสื่อมวลชนมากนัก แต่พระอุปนิสัยถ่อมตน เปิดเผย และเป็นตัวของตัวเอง ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยรู้สึกชื่นชมรักใคร่ พระจริยวัตรแบบเรียบง่ายติดดินและไม่ชอบทำตัวโดดเด่นนั้น สอดคล้องกับพื้นฐานวัฒนธรรมโปรเตสแตนต์แบบคาลวินิสม์ (Calvinism) ที่ชาวดัตช์พากันยึดถือมาโดยตลอด

เจ้าหญิงอามาเลียเคยตรัสเอาไว้ว่า “ถ้าฉันสามารถใช้การทูตเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นได้ นั่นเท่ากับว่าฉันทำให้โลกนี้ดีขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย แค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้ว”

++++++

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว