เจ้าของขับไล่ตามระทึก เจอโจรขับรถที่ขโมยไป แจ้งตำรวจสมทบ สุดท้ายคนร้ายขับรถติดหล่ม ทิ้งรถวิ่งหนีไปได้ เจ้าหน้าที่กระจายกำลังค้นหาแต่ยังไม่เจอตัว

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2565 ร.ต.อ.สนิท ชูแจ่ม รอง สวป.สภ.เมืองพัทลุง นำกำลังสายตรวจ จำนวน 2 คัน ไล่ตามรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี หมายเลขทะเบียน กจ 3863 พัทลุง หลังรับแจ้งจากนายฐานันท์ ทองมาก อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย ว่า รถยนต์เก๋งที่หายไปเมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่ามีคนขับอยู่บนถนนสายเอเชีย และมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองพัทลุง ขณะที่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้เสียหายได้ขับรถตามไล่หลังไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสมทบพร้อมไล่ติดตามรถคนร้าย พบว่าคนร้ายได้ขับรถหนีมุ่งตรงไปยังถนนสายบ้านสวน-ควนกุฎ ก่อนเลี้ยวลัดเลาะเข้าไปหลังวัดบ้านสวน พื้นที่หมู่ 10 ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง และมุ่งหน้าเข้าไปถนนลูกรังกลางทุ่งนาเป็นระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร

เนื่องจากถนนสายดังกล่าวเป็นถนนลูกรัง มีน้ำท่วมขังและเป็นดินโคลน รถจึงติดหล่มขับต่อไปไม่ได้ คนร้ายเป็นชายรูปร่างสูง ประมาณ 165 เซนติเมตร ผมเกรียน ผิวดำแดง ตัดสินใจทิ้งรถ ก่อนวิ่งหนีหายเข้าไปในป่าละเมาะริมทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกค้นหาพร้อมขอความร่วมมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ได้ช่วยกันตามหาอีกแรง แต่ไม่เจอคนร้าย

น.ส.สุกัญญา ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ก่อนเที่ยง พบกุญแจรถหายไปจากหน้าร้านในตัวเมืองพัทลุง คนในบ้านหากันเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ พ่อเลยปล่อยลมรถล้อหน้าไว้ แต่พอตื่นมาตอนเช้าวันนี้ปรากฏว่ารถหายไป ครอบครัวจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทลุง เมื่อช่วงเช้า

น.ส.สุกัญญา กล่าวต่อว่า กระทั่งในช่วงบ่ายวันนี้ ตนกับสามีขับรถอีกคันกลับจากซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า ริมถนนสายเอเชีย สังเกตเห็นรถลักษณะเหมือนกับของครอบครัว แต่ตรงป้ายทะเบียนมีโคลนโปะอยู่เหมือนจงใจทำให้มองเลขทะเบียนไม่ชัด สามีจึงขับรถแซงไปข้างหน้า แต่พอเห็นคนขับก็จำได้ ว่าเป็นรถของตัวเองแน่ เพราะจำได้ว่าชายคนร้ายเคยเข้าไปที่ร้าน และช่วงเช้าก่อนที่กุญแจจะหายไป ชายคนดังกล่าวก็เข้าไปป้วนเปี้ยนที่หน้าร้าน จึงตัดสินใจขับรถตาม พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สุดท้ายคนร้ายตัดสินใจทิ้งรถหนี ถือว่ายังโชคดีที่ได้รถคืน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถคันดังกล่าวมาที่ สภ.เมืองพัทลุง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบสำนวนในการตามตัวคนร้าย และติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป