โอกาสที่พลทหารทราวิส คิง ของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งวิ่งข้ามพรมแดนเข้าไปยังอาณาเขตของเกาหลีเหนือ จะได้เดินทางกลับมาตุภูมิในเร็ววันนี้ริบหรี่อย่างมาก เนื่องจาก กรุงเปียงยางยังไม่ได้ตอบกลับสหรัฐฯ เกี่ยวกับสถานภาพและที่อยู่ของทหารอเมริกันรายนี้หลังเวลาผ่านไปหลายวันแล้ว
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุม Aspen Security Forum เมื่อวันศุกร์ว่า “เรามีช่องทางการสื่อสาร เราได้ใช้งานช่องทางเหล่านั้นแล้ว” และว่า “คำตอบที่เราได้คือ: การยิงทดสอบขีปนาวุธลูกแล้วลูกเล่า”
ช่องทางการสื่อสารที่รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ พูดถึงคือ สิ่งที่กรุงวอชิงตันพยายามจัดตั้งขึ้นเพื่อพูดคุยกับกรุงเปียงยางเมื่อช่วงต้นของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน
และขณะที่ สหรัฐฯ รอฟังคำตอบจากเกาหลีเหนือผ่านช่องทางของสหประชาชาติและสวีเดน ซึ่งเป็นตัวกลางการสื่อสารกับกรุงเปียงยาง กองบัญชาการกองทัพสหรัฐฯ และสหประชาชาติ (U.S. Army and United Nations Command – UNC) ได้เดินหน้าการสืบสวนว่า นายทหารที่ควรจะขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับสหรัฐฯ ไปรับโทษทางวินัยกลับไปปรากฏตัวที่พรมแดนระหว่างสองเกาหลีได้อย่างไร
พันเอกไอแซค เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการด้านกิจการสาธารณะ UNC ซึ่งเป็นกองกำลังนานาชาติที่นำทีมโดยสหรัฐฯ และทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ความมั่นคงร่วม (Joint Security Area – JSA) ซึ่งเป็นจุดที่พลทหารคิงวิ่งข้ามเข้าไปในฝั่งเกาหลีเหนือ บอกกับ วีโอเอ ว่า กำลังมีการศึกษาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมเพื่อ “สรุปว่า ต้องมีการดำเนินนโยบายหรือขั้นตอนใด ๆ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับผู้ที่มาเยือน JSA จากนี้ไป” ด้วย
US Army
พยานซึ่งเป็นผู้ร่วมทัวร์พื้นที่ JSA ที่เห็นเหตุการณ์ขณะพลทหารคิงวิ่งข้ามแดนนั้นกล่าวว่า นายทหารวัย 23 ปีคนนี้วิ่งไป-หัวเราะไป ก่อนจะวิ่งไปหลังอาคารที่ทำหน้าที่ปักปันเขตแดนทางทหารระหว่างสองเกาหลี และถูกเจ้าหน้าที่ทหารของกรุงเปียงยางจับขึ้นรถเพื่อขับเข้าไปในฝั่งเกาหลีเหนือ ตามข้อมูลในรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ว่าด้วยการข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย
จนถึงบัดนี้ ยังไม่มีใครทราบว่า อะไรคือแรงจูงใจที่ทำให้พลทหารคิงทำการอันเป็นอันตรายยิ่งเช่นนี้ เพราะการที่คน ๆ หนึ่งจะวิ่งข้ามแดนในบริเวณดังกล่าวเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น เพราะแม้จะมีกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันพยายามแปรพักตร์ด้วยการวิ่งฝ่าเขตปลอดทหารระหว่างสองเกาหลีที่มีความกว้าง 2.5 ไมล์ยาวถึง 160 ไมล์มาบ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ที่วิ่งจากฝั่งเกาหลีใต้หายเข้าไปในฝั่งเกาหลีเหนือสำเร็จระหว่างร่วมทัวร์พื้นที่ JSA
และเพราะมาตรการจำกัดต่าง ๆ เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และความกังวลในหลายเรื่องของฝั่งเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ เพิ่งส่งเรือดำน้ำติดหัวรบนิวเคลียร์มาจอดที่ท่าเรือของเกาหลีใต้ในสัปดาห์ที่แล้ว นักวิเคราะห์เชื่อว่า กว่าจะมีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพลทหารคิง ก็คงต้องใช้เวลานานนับสัปดาห์เพราะเรื่องของการกักตัวเฝ้าระวังอาการและการสอบปากคำโดยฝ่ายเกาหลีเหนือ