เกษตรกรผู้เลี้ยงจระเข้รายใหญ่ใน จ.ตรังที่มีจระเข้กว่า 450 ตัว ตัดสินใจเปิดฟาร์มขายจระเข้ยกตัว หลังคู่สัญญารายใหญ่ชะลอการรับซื้อ
วันที่ 18 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฟาร์มเลี้ยงจระเข้รายใหญ่ หมู่6 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นของ นายสมมาตร ศรีสุข อายุ 55 ปี ใช้พื้นที่สวนยางพาราเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ทำบ่อเลี้ยงจระเข้น้ำจืดจำนวน 450 ตัว เพื่อส่งขายให้กับบริษัทผู้ขายลูกจระเข้และรับซื้อคืนรายใหญ่ใน จ.ชลบุรี
ซึ่งเกษตรกรเริ่มเลี้ยงจระเข้เมื่อปี 2550 จำนวน 88 ตัว เมื่อกิจการดีขึ้น จระเข้ขายได้ราคาดีตัวละเกือบ 10,000 บาท เกษตรกรจึงขยายบ่อเลี้ยงเพิ่มขึ้น จนถึงปัจจุบันมีจระเข้อยู่จำนวน 450 ตัว แต่ 2 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาโควิดระบาด ทำให้บริษัทคู่สัญญา ชะลอการรับซื้อหรือมารับซื้อเพียงบางส่วน เนื่องจากไม่สามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้ ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าอาหาร ค่าน้ำ และค่าดูแลเองทั้งหมด
จากเดิมที่เคยเลี้ยงครบ 3 ปี จระเข้จะมีรอบอกประมาณ 55 เซนติเมตรขึ้นไป ราคาจะอยู่ที่ตัวละ 8,000-10,000 บาท แต่หลังบริษัทไม่มารับซื้อ ทำให้จระเข้ที่มีอายุตั้งแต่ 3-5 ปี มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยมีพร้อมขายเกือบ 200 ตัว เกษตรกรจึงประกาศเปิดขายจระเข้ยกตัวหน้าฟาร์ม ในราคาที่ต่ำกว่าทุนหรือตัวละประมาณ 3,500-6,000 บาทแล้วแต่ขนาด
ซึ่งบริษัทคู่สัญญาก็เห็นด้วย เพราะนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระของเกษตรกรแล้ว ยังช่วยแบ่งเบาภาระของบริษัทฯ ได้อีกทางหนึ่งด้วย เพราะที่รับซื้อไปจากเกษตรกรรายอื่นทั่วประเทศก็ยังนำไปสต็อกไว้ ไม่สามารถส่งออกได้
ด้าน นายสมมาตร ศรีสุข เกษตรกรผู้เลี้ยงจระเข้รายใหญ่ใน จ.ตรัง กล่าวว่า ตนเริ่มเลี้ยงจระเข้มาตั้งแต่ปี 50 จนปัจจุบันรวม 15 ปีแล้ว โดยเริ่มเลี้ยงครั้งแรกจำนวน 88 ตัวและเริ่มขยายจนถึงวันนี้ประมาณ 450 ตัว ถือว่าเป็นรายใหญ่ที่สุดใน จ.ตรัง ซึ่งตอนนี้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงจระเข้ในตรังจำนวน 22 ราย ตอนซื้อมาขนาดตั้งแต่ 30 เซนติเมตรถึง 1 เมตรเศษ
ตอนนี้มีพร้อมขายอยู่ประมาณ 100-200 ตัว ฟาร์มเปิดโอกาสให้ขายให้กับคนอื่นได้ด้วย ถ้ามีคนมาติดต่อจะซื้อ ก็แล้วแต่ว่าจะซื้อแบบไหน บางคนแค่อยากจะซื้อไปทดลองกินก็จะขายแบบเหมา แต่ให้หวังว่าจะมีบริษัทใหญ่มาซื้อคงไม่มี หากใครสนใจติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 092-7956914