รายงานล่าสุดของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า อาวุธพลังงานตรง (directed energy) อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการฮาวานา หรือ ฮาวานา ซินโดรม (Havana Syndrome) ซึ่งเป็นความเจ็บป่วยปริศนาที่พบในหมู่เจ้าหน้าที่และนักการทูตสหรัฐฯ ผู้ปฏิบัติงานในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
อาวุธพลังงานตรง คือระบบอาวุธที่โจมตีเป้าหมายด้วยพลังงานโดยตรง เช่น แสงเลเซอร์ คลื่นไมโครเวฟ รังสี และคลื่นเสียง
ที่ผ่านมา มีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องว่าอาการป่วยปริศนานี้มีสาเหตุมาจากการใช้อุปกรณ์บางอย่าง หรือเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นทางจิตใจ
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับล่าสุดจากคณะผู้เชี่ยวชาญของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า ฮาวานา ซินโดรม เป็นความผิดปกติ “ที่เกิดขึ้นจริง และมีความเป็นไปได้” ซึ่งในบางกรณีอาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ลับที่ถูกซุกซ่อนไว้
แต่คณะผู้จัดทำรายงานไม่ได้ค้นหาว่า ใครอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปองร้ายเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ เหล่านี้
ฮาวานา ซินโดรม ถูกพบครั้งแรกในหมู่เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและนักการทูตอเมริกันที่ปฏิบัติงานในกรุงฮาวานา ของคิวบา เมื่อปี 2016 ที่เริ่มมีอาการผิดปกติต่าง ๆ ทว่าในช่วงแรกรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เชื่อคำกล่าวอ้างเหล่านี้
แต่เมื่อปีก่อน ทางการสหรัฐฯ หันมาสนใจเรื่องนี้จริงจังมากขึ้น และขอให้เจ้าหน้าที่รายงานถึงอาการผิดปกติที่คล้ายกัน ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่รายงานเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยมีอย่างน้อย 1,000 รายทั่วโลก
เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ไม่พบหลักฐานการกระทำอย่างแพร่หลายโดยต่างชาติ พร้อมระบุว่า ความผิดปกติหลายรายอาจเกิดจากสาเหตุตามธรรมชาติ หรือความเครียด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มีความผิดปกติราว 24 รายที่ยังไม่สามารถอธิบายได้
รายงานล่าสุดนี้พบอะไร
รายงานชิ้นล่าสุดนี้ ได้ศึกษาเอกสารลับและการสัมภาษณ์พยานกว่า 1,000 ชิ้น โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้มีอาการผิดปกติบางอย่าง (เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนที่ชัดเจน)
การศึกษาได้ข้อสรุปว่า อาการผิดปกติของคนกลุ่มนี้ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยสาเหตุจากสิ่งแวดล้อม หรืออาการทางการแพทย์ แต่อาจเกิดจากอุปกรณ์หรือปัจจัยภายนอกบางอย่าง
คณะผู้จัดทำรายงานพบลักษณะอาการหลักของฮาวานา ซินโดรม อาทิ การเกิดเสียงหรือแรงดันในหูข้างหนึ่ง หรือศีรษะข้างหนึ่งอย่างฉับพลัน อาการวิงเวียนศีรษะ สูญเสียการทรงตัว และมีอาการปวดหู รวมทั้งเกิดความผิดปกติในการรับรู้ตำแหน่งและทิศทาง
พวกเขาได้หาสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้ เช่น สัญญาณเสียง, สารเคมี หรือสารชีวภาพ, รังสีก่อไอออน, ปัจจัยทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความถี่วิทยุ และพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาว่าอุปกรณ์ลับที่ซุกซ่อนไว้บางอย่างอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติที่พบหรือไม่
คณะจัดทำรายงานพบว่า ปัจจัยทางจิตวิทยาหรือทางสังคมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถอธิบายอาการผิดปกติที่พบได้ แต่อาจมีส่วนที่ทำให้เกิดความผิดปกติได้ ขณะเดียวกัน ก็ไม่สามารถอธิบายความผิดปกติที่เกิดขึ้นด้วยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมหรืออาการทางการแพทย์
คณะผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ลักษณะหลายประการของอาการทางประสาทสัมผัสที่พบไม่น่าจะเกิดจากโรคทางระบบประสาท และชี้ว่าอาจมาจากปัจจัยกระตุ้นภายนอก
ผลการศึกษาพบว่า แรงสั่นสะเทือนของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า โดยเฉพาะในช่วงความถี่วิทยุ คือคำอธิบายที่มีความเป็นไปได้มาก แม้จะยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนก็ตาม
รายงานระบุว่า เสารับสัญญาณแบบพิเศษอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ และอุปกรณ์ชนิดนี้สามารถซุกซ่อนได้และใช้พลังงานไม่มาก โดยสามารถส่งสัญญาณผ่านอากาศและกำแพงอาคารได้
อย่างไรก็ตาม ในรายงานไม่ปรากฏรายละเอียดว่าอุปกรณ์ดังกล่าวคืออะไร และไม่ระบุว่าเป้าหมายการใช้อุปกรณ์นี้คือการทำอันตรายเจ้าหน้าที่ หรือเพื่อสอดแนม อีกทั้งไม่ได้ค้นหาว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำนี้
ผู้ต้องสัย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ หลายคนเชื่อว่า รัสเซียอาจอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ และมีการหยิบยกประเด็นนี้เข้าหารือในที่ประชุมต่าง ๆ แม้จะไม่พบหลักฐานชัดเจนที่สนับสนุนความเชื่อนี้ก็ตาม
คณะจัดทำรายงานระบุว่า อีกคำอธิบายที่มีความเป็นไปได้สำหรับเรื่องนี้ก็คือคลื่นอัลตราซาวด์ แม้ว่าคลื่นชนิดนี้จะเคลื่อนที่ผ่านอาคารได้ยากกว่า และทำให้ต้องใช้ต่อเป้าหมายในระยะใกล้
ผู้จัดทำรายงานมีข้อแนะนำต่าง ๆ สำหรับเรื่องนี้ เช่น การเก็บข้อมูลให้ได้มาตรฐาน แต่ให้เก็บข้อมูลในบางหมวดหมู่ อาทิ เทคโนโลยีที่ตรวจพบ เอาไว้เป็นความลับ
แถลงการณ์ร่วมของเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สุดของหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ คือ นางแอวริล ดี เฮนส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และนายวิลเลียม เจ เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอ ประกาศจะเดินหน้าค้นหาความจริงเรื่องนี้ต่อไป พร้อมกับให้การดูแลแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากฮาวานา ซินโดรม
……………….
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว