ศาลสั่งจำคุก 102 ปี “เบียร์ บ้านแพ้ว” แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตึกประตูดำ อ้าง เป็นตร.สภ.เมืองเชียงราย เหยื่อหลายรายหลงเชื่อโอนเงินให้ รับโทษจริง 50 ปี ตามกฎหมาย ให้คืนเงินเหยือ 41 ล้าน
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมาศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หมายเลขดำ อ155/2566 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายชลวิชา ปานสมุทร หรือเบียร์ บ้านแพ้ว ที่หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินในขั้นตอนสุดท้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ตึกประตูดำ” เป็นจำเลย ในความผิดฐาน
ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ ,ร่วมกันฟอกเงิน เป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ส่วนความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ
กรณีที่จำเลยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ “สภ.เมืองเชียงราย” หลอกลวงเหยื่อว่ามี พัสดุตกค้าง และพบสิ่งผิดกฎหมาย โดยมีผู้เสียหายถูกนำชื่อเป็นผู้ส่งพัสดุและ อ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฟอกเงิน จึงต้องโอนเงินมาตรวจสอบ โดยมีนายชาญชัย อิงคเวช ผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจเล่นหุ้น สูญเสียเงินไป 41 ล้านบาท รวมถึงแพทย์รายหนึ่งที่ จ.ชุมพร เสียหาย 101 ล้านบาท และข้าราชการเกษียน 11 ล้านบาท
จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกรรมให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจรและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดจำคุก 8 ปี
ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและฐานนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็น คนอื่นซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดจำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 21 กระทง เป็นจำคุก 84 ปี ความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินจำคุก10 ปี รวมจำคุกจำเลย 102 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติจำคุก4 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงเป็นคนอื่นคงจำคุก 42 ปี และฐานร่วมกันฟอกเงินจำคุกอีก 5 ปี รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 51 ปี อย่างไรก็ตามเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) คงจำคุกจำเลยรวม 50 ปีและให้จำเลยคืนเงิน 41,517,869 บาท แก่ผู้เสียหายด้วย