อิสราเอล เป็นชาติประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์จนสามารถครอบคลุมประชากรเกือบ 60% ของประเทศที่รับวัคซีนครบในสองโดสแล้วนั้น กำลังเผชิญปัญวัคซีนล้นตามมา จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นอิสราเอลระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลอาจต้องทำลายทิ้งวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค ที่กำลังจะหมดอายุอย่างน้อย 800,000 โดสทิ้งอย่างน่าเสียดาย หากไม่สามารถหาผู้ที่จะมาซื้อวัคซีนเหล่านี้ได้ภายในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
รายงานระบุว่า การค้นหาผู้รับวัคซีนไฟเซอร์ล็อตดังกล่าวต่อซึ่งกำลังจะหมดอายุภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้นั้น มีขึ้นท่ามกลางที่อิสราเอลเผชิญความเสี่ยงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ในประเทศ จนเป็นเหตุให้ทางการอิสราเอลต้องกลับมาประกาศใช้มาตรการสมหน้ากากอนามัยภายในอาคารอีกครั้ง สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ที่กำลังจะหมดอายุในสิ้นเดือนกรกฎาคม จำนวน 1.4 ล้านโดส ทว่ารัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นาตาฟลี เบนเนตต์ มีแผนนำวัคซีนล็อตดังกล่าวเร่งแจกจ่ายให้กับเด็กวัย 12-15 ปี จำนวน 600,000 โดส ส่งผลให้เหลือวัคซีนราว 800,000 โดสที่ใกล้จะหมดอายุ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ปัจจุบันมีประชากรกว่า 5.5 ล้านคนในอิสราเอลที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส โดยมีอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่ม 13,000 รายต่อวัน จากอัตราดังกล่าวจะทำให้อิสราเอลสามารถฉีดวัคซีนให้เยาวชนกลุ่มที่มีอายุ 12-15 ปีทั้ง 300,000 คนได้ก่อนวัคซีนล็อตนี้จะหมดอายุ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับกลุ่มเยาวชนภายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้เท่านั้น เพื่อให้ทันฉีดเข็มที่ 2 ในล็อตเดียวกันที่กำลังจะหมดอายุภายในเดือนหน้า และในขณะนี้อิสราเอลกำลังเจรจากับหลายประเทศเพื่อที่จะระบายวัคซีนเหล่านี้ออก หรือแลกกับวัคซีนที่ประเทศเหล่านั้นจะได้รับในภายหลัง
ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยว่าประเทศเหล่านั้นมีประเทศใดบ้าง ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ปฏิเสธคือทางการปาเลสไตน์เมื่อ เนื่องจากวัคซีนใกล้ถึงวันหมดอายุมากเกินไป ขณะที่สื่อท้องถิ่น รายงานว่ายังมีอีก 3 ประเทศที่กำลังเจรจาขอซื้อวัคซีนล็อตดังกล่าว