แสงแดดที่แรงกล้าในช่วงหน้าร้อนในญี่ปุ่นนอกจากจะเป็นสาเหตุของลมแดดแล้วก็ยังทำร้ายผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เกิดกระและฝ้า ตลอดจนทำให้ผิวหนังแสบไหม้ได้ นอกจากการป้องกันจากภายนอกโดยการใช้ครีมกันแดด ใส่หมวก หรือกางร่มเมื่อต้องออกแดดแล้ว การป้องกันจากภายในโดยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าเพื่อให้ผิวหนังทนทานต่อรังสียูวี (UV) นั้นก็มีความสำคัญไม่น้อย มารู้จักอาหารที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าช่วยให้ผิวหนังทนทานต่อรังสียูวี และอาหารที่ควรระวังไม่รับประทานในวันที่ต้องออกไปกลางแดดกัน
อาหารที่ช่วยให้ผิวทนทานต่อรังสียูวีจากภายใน
รังสียูวีจะมีผลให้ร่างกายสร้างออกซิเจนที่มีพลัง (Active oxygen) ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระขึ้นมา สารชนิดนี้จะไปกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์เมลานินซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้าและรอยกระขึ้นมา อีกทั้งยังไปลดการสร้างคอลลาเจนจนส่งผลให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อย เพื่อลดปริมาณออกซิเจนที่มีพลังตัวร้ายนี้ จึงควรรับประทานอาหารที่มีผลในการต้านสารอนุมูลอิสระดังต่อไปนี้
วิตามินต่างๆ
- วิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยขจัดออกซิเจนที่มีพลังที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการกระตุ้นโดยกันรังสียูวีออกจากร่างกาย อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ได้แก่ อัลมอนด์ ถั่วต่างๆ งา ฟักทอง อะโวคาโด และปลาไหล เป็นต้น
- วิตามินเอ เป็นอีกหนึ่งวิตามินซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยคงสภาพที่แข็งแรงของผิวหนังและเยื่อเมือก อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ได้แก่ แครอท ฟักทอง ปลาไหล ตับสัตว์ และชีส เป็นต้น
- เบต้า แคโรทีน สารชนิดนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ซึ่งจะช่วยเสริมปริมาณวิตามินเอให้แก่ร่างกาย อาหารที่อุดมไปด้วยเบต้า แคโรทีน ได้แก่ แครอท ฟักทอง บร็อกโคลี กระเทียม ส้มต่างๆ และแตงโม เป็นต้น
- วิตามินซี ซึ่งช่วยกดการสร้างเมลานิน และอาจจะมีผลในการทำให้ผิวหนังตึงและยืดหยุ่น อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ได้แก่ ผลไม้ตระกูลส้ม เกรปฟรุต มะนาว มะนาวเหลือง กีวี่ สตรอว์เบอร์รี่ ผักกาดกวางตุ้ง พริกหวาน และมันฝรั่ง เป็นต้น อย่างไรก็ดี วิตามินซีเป็นวิตามินที่ไม่ทนร้อน จึงควรนำมารับประทานสดหรือปรุงโดยใช้ความร้อนในเวลาที่สั้น
- โพลีฟีนอล โพลีฟีนอลเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีพลังงานสูง ซึ่งมีมากในถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง สตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ถั่วต่างๆ มะกอก โกโก้ คาเคา กาแฟ และรำข้าว เป็นต้น
อาหารเพื่อผิวพรรณที่ควรระวังไม่รับประทาน เมื่อต้องออกแดดในระหว่างวัน
แม้ว่าอาหารหลายชนิด เช่น ส้มต่างๆ มะนาว มะนาวเหลือง เกรปฟรุต กีวี ลูกฟิก แตงกวา และขึ้นฉ่ายฝรั่ง จะอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ดีต่อผิวพรรณ อย่างไรก็ดี อาหารเหล่านี้มีสารชนิดหนึ่งชื่อว่า ซอราเลน (Psoralen) ในปริมาณที่สูง หากรับประทานในปริมาณมาก สารชนิดนี้จะส่งเสริมให้ร่างกายดูดซับรังสียูวีได้ดี ส่งผลในการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน อันจะเป็นสาเหตุให้เกิดกระและฝ้า และมีผลทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นหย่อนคล้อยได้ง่าย ดังนั้นเมื่อต้องออกแดดในช่วงกลางวันจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดังกล่าวในช่วงเวลาเช้าและกลางวัน แต่ควรรับประทานในเวลาเย็นแทนเพื่อรับวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย
โดยปกติเราไม่ได้ทาครีมกันแดดทั้งตัวหรือกางร่มใส่หมวกอยู่ตลอดเวลา เพราะอาการขี้เกียจก็มีเป็นครั้งคราว หากต้องการดูแลป้องกันผิวพรรณให้ใส ไร้รอยด่างดำ หรือรอยเหี่ยวย่น สิ่งสำคัญที่ไม่ต่างจากการดูแลผิวหนังจากภายนอกก็คือการดูแลผิวจากภายในด้วยอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และหลีกเลี่ยงจากการรับประทานอาหารที่เสริมให้ผิวหนังดูดซับรังสียูวีดังกล่าวมาข้างต้น