‘ยุ้ย’เจอปราบเซียนซีจี‘เล่ห์ลุนตยา’งานหิน
คร่ำหวอดอยู่ในวงการแสดงมากว่า 20 ปี ถ่ายทอดบทบาทมาแล้วแทบ ทุกบทบาท สำหรับนางเอกสาวมากฝีมือ ‘ยุ้ย’ จีรนันท์ มะโนแจ่ม ล่าสุดลงเล่นละครแนวดราม่าสยองขวัญ “เล่ห์ลุนตยา” ละครซีรีส์ผีผ้าฟอร์มยักษ์ทางช่อง 8 ที่เป็นงานใหม่ท้าฝีมือ
โดยวันนี้สาวยุ้ยได้เจียดเวลามาพูดคุยถึงบทบาทที่ได้รับในละครเรื่องดังกล่าว รวมถึงการวางแผนชีวิตครอบครัวกับสามี ‘ธันน์ ธนากร’
บทบาทที่ได้รับในละคร เล่ห์ลุนตยา เป็นอย่างไร?
ยุ้ย – “รับบทเป็น เจ้านางมินพยู หลายคนจะมองว่าบทดราม่าเหมาะกับยุ้ยมากๆ ซึ่งยุ้ยก็ไม่กลัวถ้าเป็นดราม่า แต่ดราม่าเรื่องนี้ยากกว่าเรื่องอื่นตรงที่เจ้านางมินพยูถูกกระทำหนักมาก ยุ้ยจะต้องแสดงออกมายังไงให้คนดูรู้ว่าเจ้านางเจ็บปวดโกรธแค้น น้ำตาที่ไหลออกมาไม่ได้เป็นน้ำตาแห่งความเสียใจเท่านั้น แต่มันเป็นน้ำตาของความเจ็บปวดของความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะฉะนั้นตรงนี้มันเป็นการแสดงที่ค่อนข้างยากสำหรับยุ้ยที่จะสื่อออกมาให้ทุกคนได้เห็นว่าเราทรมานแค่ไหน”
✦ ความดราม่าจาก ร่านดอกงิ้ว มาถึง เล่ห์ลุนตยา มีความแตกต่างกันยังไง?
ยุ้ย – “เรื่องนี้ต้องแสดงความโกรธแค้น ทั้งสายตาทั้งน้ำเสียงที่ต้องตะเบ็งทำให้ศัตรูกลัวเราที่สุด แล้วยุ้ยเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ เวลาจะไปข่มเขา บางทีสายตาอย่างเดียวไม่พอ จะต้องตะโกนโหวกเหวกโวยวายด้วย ฉะนั้นความท้าทายที่สุดในเรื่องนี้คือการแสดงอารมณ์และการอิมโพรไวส์ที่ค่อนข้างเยอะ เพราะยุ้ยต้องถูกฆ่าตายอย่างทุกข์ทรมาน แล้วในเรื่องจะมีการทำซีจีต่างๆ ถือว่ายุ้ยเล่นซีจีเยอะ อย่างฉากที่ยุ้ยต้องถูกตัวอัปรีย์พุ่งเข้ามาใส่ อันนี้ก็ไม่เคยเล่นมาก่อน แล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องเล่นยังไง แต่มันต้องแสดงความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างที่สุด ไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้มาก่อน”
“ปกติบู๊ก็บู๊เลย ร้องไห้ก็ร้องไห้ ร้ายก็ร้าย แต่การเล่นกับเอฟเฟ็กต์เล่นกับซีจียากมากสำหรับยุ้ย จริงๆ เคยเล่นกับซีจีมาบ้างแต่เรื่องอื่นเล็กน้อยมาก เรื่องนี้เยอะ แล้วต้องแสดงอย่างฉากเจ็บปวดยุ้ยจะต้องหงายท้องร้องกรี๊ดโวยวายอยู่ท่ามกลางน้ำตก ซึ่งตอนที่เราเล่นก็ค่อนข้างเล่นใหญ่เพราะฉะนั้นซีจีก็ใหญ่พอสมควร ดีถือว่าเราเล่นเผื่อเอาไว้แล้วเพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนที่ตัดต่อออกมามันจะเป็นยังไง”
ปราบเซียนยอดฝีมือ?
ยุ้ย – “ปราบเซียนเพราะมันใหม่สำหรับยุ้ย ถึงได้บอกว่าฉากร้องไห้มาเถอะ 30 ซีนวันนึงไม่กลัวเลย บู๊เล่นได้ แต่การเล่นกับเอฟเฟ็กต์ซีจีพวกนี้ยังใหม่สำหรับยุ้ย ไม่อยากจะพูดเลยว่า 20 กว่าปีเพิ่งจะมาเจอเรื่องนี้หนักสุดจริงๆ”
ฉากตายของเจ้านางมินพยูสยองมาก?
ยุ้ย – “ชีวิตของเจ้านางมินพยูเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารจริงๆ เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่จิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความซื่อสัตย์ แต่ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ทั้งโดนหักคอ โดนฉีกปากถึงหู แล้วตอนแต่งเอฟเฟ็กต์ ฟันทะลักออกมาข้างนอก ฉากนี้ใช้ทั้งซีจีและแต่งเอฟเฟ็กต์จริงช่วย แต่เราก็ต้องแสดงอารมณ์ให้เข้ากับซีจีที่จะออกมา แล้วก็ต้องตาเหลือกและค้างอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะมีคนมาปิดตา ส่วนช็อตบิดคอคือกรึบ! คอหักเลย คนดูคงตกใจเพราะเราเองก็ไม่คิดว่าจะโดนกระทำแบบนั้น พูดๆ อยู่ยังไม่ทันขาดคำโดนหักคอเลย หักคอไม่พอยังฉีกปาก เราอีก เลือดนี่คือนองแบบสุดๆ อ่ะ”
แต่งหน้าเอฟเฟ็กต์สยดสยองไม่ แพ้กัน?
ยุ้ย – “ถ้าวันไหนแต่งเอฟเฟ็กต์วันนั้นเตรียมตัวเลยว่าจะกินได้น้อยมาก เพราะปากจะต้องติดซิลิโคนที่เป็นชิ้นเนื้อแล้วยาวมาถึงกกหู เวลาจะพูดก็พูดได้นิดเดียวเพราะอ้าได้ไม่เยอะ แล้วก็จะมีฟันที่เวลาจะถ่ายจริงก็ต้องเติมทั้งเลือดสดเลือดแห้งเพื่อให้ดูสยดสยอง ซึ่งใช้เวลาแต่งเอฟเฟ็กต์ประมาณชั่วโมงกว่า ที่เร็วเพราะทางทีมแต่งหน้าเอฟเฟ็กต์เขาทำชิ้นเนื้อมาอยู่แล้ว มาถึงก็แปะทากาวลงบนหน้าได้เลย”
มีแพ้บ้างไหม?
ยุ้ย – “แพ้กาวมากกว่า ยุ้ยเคยแพ้หนักมากซึ่งเป็นกาวสมัยก่อน น่าจะประมาณ 20 ปีที่แล้ว เคยแพ้ถึงขั้นเป็นหนอง ในรูขุมขน แต่เดี๋ยวนี้น่าจะมีการพัฒนาเลยกลายเป็นแค่ผื่นแดงเฉยๆ ไม่ได้แพ้หนัก ตอนแรกก็กลัว แต่ก็บอกทีมงานไว้แล้วว่าแพ้กาว”
ซีรีส์เกี่ยวกับผ้า ผ้าเป็นส่วนสำคัญของเรื่อง ได้ข่าวว่าสนนราคาไม่เบา?
ยุ้ย – “ราคาเขา 6 หลักค่ะ วันที่ฟิตติ้งผ้า ยุ้ยแบบใส่ให้ยุ้ยแป๊บเดียวพอนะ เพราะยุ้ยต้องนั่งต้องอะไรอย่างนี้มันเกร็ง อย่างที่บอกว่าผ้าแพงมาก ฉะนั้นเวลาที่ถ่ายจริงก็จะไม่ใช้ ถ้าเอามาใช้ยุ้ยคงจะเกร็งไม่มีสมาธิในการทำงาน เพราะฉะนั้นเวลาที่ถ่ายจริงเราจะใช้ผ้าที่เป็นผ้าสำรอง ผ้าราคาแพงผืนนั้นใช้แค่ตอนฟิตติ้ง ตอนถ่ายรูปโดยที่ไม่ต้องมีอิริยาบถอะไรเยอะก็ใช้ได้”
ราคา ตั้ง 6 หลัก เหมือนต้องแบกภาระไว้?
ยุ้ย – “นั่งก็ไม่ได้ เกร็งไปหมด แล้วใครอย่ามาเข้าใกล้นะ เดี๋ยวมาเกี่ยวด้ายเขาหลุดขึ้นมา เพราะลายผ้ามันยากมาก การทอมืออะไรต่างๆ มันถึงได้แพง ตอนที่ได้จับก็ตื่นเต้นเพราะเราต้องใส่ไง โอเคถือว่าเป็นบุญที่มีโอกาสได้สัมผัสได้ใส่ครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะในชีวิตจริงคงไม่มีโอกาสได้ใส่แน่นอน”
ตอนใส่รู้สึกอย่างไร?
ยุ้ย – “พอได้รู้เรื่องราวอะไรต่างๆ เวลาที่เราใส่ผ้าถุงแล้วก็จะรู้สึกว่ามีความขลัง ยุ้ยอินกับบทมาก ตอนอ่านบทที่ยุ้ยร้องไห้เพราะรู้สึกว่าทำไมเจ้านางมินพยูมีชีวิตที่น่าสงสารจัง เพราะฉะนั้นยุ้ยเลยจะอินกับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเอาผ้ามาใส่หรือการแต่งตัวหรือแม้แต่ฉากทอผ้า”
คาแร็กเตอร์ตอนเป็นเจ้านางกับตอนเป็นผีคือคนละเรื่องเลย?
ยุ้ย – “ตอนเป็นเจ้านางอ่อนหวานใจดีมาก แต่พอมาเป็นผีก็เป็นปีศาจที่โหดร้าย ฝังลึกอยู่แต่กับอดีตที่โดนกระทำโดยไม่ดูเลยว่าเรื่องจริงเป็นยังไง”
อายุงานยิ่งมากขึ้น บทก็ยิ่งยากขึ้น?
ยุ้ย – “ถึงได้บอกว่าถ้ายุ้ยได้รับละครสักเรื่องหนึ่งก็จะเป็นบทหนักๆ แล้วก็ตัวเองด้วยเพราะถ้าอะไรที่ธรรมดาไปก็คงไม่รับเล่น เนื่องจากเราผ่านบทอะไรมาเยอะแล้ว ถามว่ามีความเครียดความกังวลไหมตอนที่เล่นเรื่องนี้ กังวลแค่ตอนอ่านบทว่าฉากนี้ต้องทำยังไง แต่พอได้มาคุยกับผู้กำกับฯแล้วก็สบายใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง”
เวลาเล่นบทที่หนักมากเครียดมาก สลัดมันออกได้ยังไง?
ยุ้ย – “สลัดได้ค่ะด้วยการนั่งสมาธิ ตั้งแต่เรียนการแสดงมา 20 ปีที่แล้วเพราะยุ้ยเล่นดราม่ามาตลอดก็จะถามเทคนิคเลยว่าต้องทำยังไง เนื่องจากยุ้ยเคยหยุดตัวเองไม่อยู่แล้วกลับบ้านไปเครียด ซึ่งมีความรู้สึกว่าไม่ได้ ถ้าเราคิดจะเป็นนักแสดงแล้วอารมณ์มันยังติดกับเราอยู่แบบนี้ไปตลอดเราจะแย่ บางคนเป็นโรคซึมเศร้า บางคนเครียด ซึ่งมันไม่ใช่เพราะจริงๆ ชีวิตของยุ้ยเป็นผู้หญิงที่มีความสุข ครอบครัวมีความสุข แต่พอมาถึงกองถ่ายปุ๊บต้องร้องไห้วันละ 20 ซีน การที่จะมีน้ำตาแน่นอนหัวใจมันต้องทุกข์ เพราะฉะนั้นยุ้ยคิดว่าต้องจัดการกับตัวเองยังไง ยุ้ยก็จะปรึกษาครูที่สอนแสดงเหมือนคุยกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง อันนี้ก็จะเป็นเทคนิคส่วนตัวและพยายามบอกน้องๆ ที่มาถาม เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเราก็จะดึงจิตเราออกไม่ได้”
เห็นบอกว่าจบจากเรื่องนี้จะขอพักเพื่อวางแผนมีลูก?
ยุ้ย – “ที่ต้องขอพักเพราะต้องพักร่างกาย ตั้งใจจะมีน้อง คุณหมอบอกเลยว่าห้ามเครียด ต้องพักผ่อนเยอะๆ แล้วเรื่องการมีน้องมันคือทั้งชีวิตของเราก็อาจจะต้องทุ่มเวลาให้เขาอย่างน้องๆ ขอปีนี้ ได้ไม่ได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แพลนที่จะไปพักคือไปเที่ยวผ่อนคลาย อยากไปทำตัวเองให้มีความสุขที่สุด เชื่อว่าร่างกายยุ้ยจะดีขึ้น รวมถึงบำรุง ออกกำลังกาย และปรึกษาคุณหมอ เรียกว่าตั้งใจกันทั้งคู่ คุยกันไว้ว่าต้องมีลูกให้ได้จะด้วยวิถีทางใดก็อยากจะมี ต้องมีแล้วเพราะอายุเยอะแล้ว แล้วเราก็พร้อมหมดทุกอย่าง แต่ถ้าทำทุกทางอย่างดีที่สุดแล้วลูกยังไม่มา เราก็ไม่ซีเรียส ไม่มีไม่เป็นไร เพราะอยู่กันสองคนทุกวันนี้ก็มีความสุข แต่ถ้ามีก็ดีค่ะ”
ชีวิตรักดูลงตัวมากๆ?
ยุ้ย – “ยุ้ยว่าทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจกับชีวิต เราเลือกที่จะมีความสุข แล้วยุ้ยมีวิธีการจัดการกับชีวิต เราอยู่กับคนนี้เรารู้แค่ว่าเขาเป็นคนยังไงแล้วเราอยู่กับเขาให้ มีความสุข ชีวิตมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ยุ้ยเองมีวิธีจัดการกับความคิดของตัวเอง ทุกคนที่อยู่รอบข้างจะสัมผัสได้เลยว่ายุ้ยเป็นคนที่มีความสุข ไม่ค่อยคิดเยอะทั้งที่ปัญหามันเยอะมาก”
“ธันน์เองก็เป็นส่วนสำคัญของชีวิต ตอนนี้ชีวิตเราไม่ได้มีคนเดียว ต้องยอมรับว่าชีวิตยุ้ยมีความสุขมากก็เพราะมีธันน์นี่แหละ เข้าใจกันและไปในทิศทางเดียวกันแทบจะทุกอย่าง เขาเองก็ตามใจเรา ยิ่งทุกวันนี้แต่งงานแล้วตามใจยิ่งกว่าตอนคบเป็นแฟนอีก เลยกลายเป็นว่าเขาดูแลเราดีมากและรักเรามากจริงๆ”
จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล