อั๋น-คำผการับเหนื่อย กรณีชูวิทย์ซัดสันธนะ ไม่เห็นบทบาทตำรวจ เราอยู่ในโลกแห่งการแสดง แล้วใครจะอยากมาลงทุน ทำไมเรากลายเป็นฮับแบบนี้ได้

วันที่11 พ.ย.2565 ข่าวจบ คนไม่จบ! EP 43 วิเคราะห์เจาะลึก ถึงพริกถึงขิง จากมุมมอง “อั๋น ภูวนาทและ แขก คำผกา” กับ 3 วิพากษ์เผ็ดร้อน 3 ประเด็นฮอต ค่าอาหารส.ส.ปีละ 100 ล้าน แต่ค่าอาหารเด็กเพิ่มให้ 3 บาท ชูวิทย์ VS สันธนะ มวยถูกคู่! เปิดโปงธุรกิจสีเทา-นายทุนจีน อย่าหาทำ! ครูสาวเปิบค้างคาว พฤติกรรมไม่ควรเลียนแบบ โดยพิธีกรคืออั๋น-ภูวนาท คุนผลิน และคำผกา ลักขณา ปันวิชัย สำหรับเรื่องชูวิทย์ VS สันธนะนั้น ทำไมสังคมไทยถึงเป็นแบบนี้ได้ ผู้มีอำนาจที่ต้องรับผิดชอบกลับไม่ทำอะไร ทั้งที่มันควรเป็นวาระแห่งชาติด้วยซ้ำ

คำผกาเผยว่าตอนดูคลิปก็สนุก ชูวิทย์ก็พูดว่า ไปบ่อนไหน ก็จะตามไป ประโยคสั้นๆ แบบนี้ว่า คุณสันธนะเป็นอดีตตำรวจ แล้วมีชีวิตตามบ่อนเหรอ แล้วมันไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายเหรอ คือพูดแบบอินโนเซนต์ มันทำให้เห็นภาพว่าตำรวจกับธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศนี้ เป็นมิตรสหายกัน แปลว่ามันคุ้นเคยเยี่ยงมิตร

อั๋นเผยว่า เรื่องนี้ต้องพิสูจน์โดยตำรวจ ทุกวันนี้ทลายจับ ก็ได้รายวัน เช่น เปิดเป็นร้าน แต่พอเข้าไปดูเป็นบ่อนถาวร ซึ่งเป็นของคนจีนด้วย มีคลิปอะไรมากมาย

คำผกาเผยว่า คุณชูวิทย์จะสีขาวสีดำเราไม่แคร์ แต่มีข้อมูลจากคนในวงการ ซึ่งเราไม่คิดว่าตำรวจไม่รู้ ต่อให้คุณชูวิทย์ไม่พูด ตำรวจจะไม่รู้เหรอ การพูดนี้ ทำให้ตำรวจใช้ข้อมูลเจอธุรกิจผิดกฎหมายไปหมด แล้วมันเจอทุกวัน เจอขบวนการแบบใหญ่โตซับซ้อน มันควรเป็นวาระที่สั่งตรงว่าประเทศเราเป็นฮับมาเฟียได้อย่างไร

ถ้าคุณสันธนะบอกว่าไปจับคนบริสุทธิ์ ก็ต้องสืบสวนว่าการทลายธุรกิจมาเฟียแบบนี้ มันกลั่นแกล้งคนบริสุทธิ์ไหม เราไม่เห็นกระบวนการนี้ เห็นแต่การตะลุมบอน ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แถมคุณสันธนะยังเป็นบุคคลที่เหมือนทุกคนก็รู้ว่าอยู่ในวงการไหน ทุกคนต่างรู้กันหมด แต่ทำประหนึ่งว่าไม่รู้ และทำให้สิ่งที่สันธนะทำเป็นสิ่งปกติ ปรากฎตัวอยู่ในหน้าสื่อ

เราจินตนาการว่าคุณสันธนะปรากฎตัวในหน้าสื่อ แบบไม่โดนจับสักข้อหา ในประเทศนี้มันเหมือนมีโลกคู่ขนาน มีโลกมาเฟียที่คู่ขนานกับโลกเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วเคียงคู่กันไปทั้งในที่ลับและที่แจ้ง โดยไม่รู้สึกอะไรเลย แล้วเราก็มองเขาเป็นคนปกติ แต่ก็รู้ว่าเขาไม่ได้สัมมาอาชีวะทั้งหมด

เรื่องผับมาเฟียจีน ควรเป็นวาระแห่งชาติ ทำไมเขามาใช้ประเทศเราทำผิดกฎหมายแบบนี้ แล้วมันเกิดผลกระทบอะไรกับเศรษฐกิจ เขาจะไม่มาเพราะปล่อยมาเฟียใหญ่คับบ้านคับเมืองแบบนี้ เขาไม่มาเพราะเราเป็นฮับธุรกิจผิดกฎหมายโดยสิ้นเชิง

อั๋นเผยว่าเหมือนเราชินกับความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ปล่อยผ่านมันไปเฉยๆ ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาตำรวจอยู่ได้อย่างไร ในประเทศนี้ เวลานี้ ขอพูดตรงๆเลย ต้องก้มหน้าเดินไหม แต่มันไม่มีทางเลือกในชีวิตเหรอ เหมือนมีปัญหาก็ต้องแจ้งตำรวจ ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรให้เรา แถมตอนเราเป็นผู้เสียหายก็อาจเสียหายเพิ่มไปอีก ตอนเขามาปกป้องเรา ทุกคนก็มี แต่ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

กี่ครั้งแล้วในหลายวาระว่าจะปฏิรูปตำรวจ เรารู้ว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เป็นแบบนี้ แต่ก็ปล่อย

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง กลับไม่มีใครลุกมาขอโทษว่าจะปรับปรุงการทำหน้าที่ของฉันเอง ไม่เหมือนโศกนาฏกรรมอิแทวอน เกาหลี เขาออกมาขอโทษทุกระดับเลย แต่ของเราไม่มีใครรับผิดชอบเลย

ตอนสันธนะกับชูวิทย์ทะเลาะกัน เราไม่เห็นบทบาทของตำรวจเลย เหมือนเป็นลูกน้องของทั้งคู่เลย เขามาพูดเรื่องบ่อนเต็มปากเต็มคำ ได้ยินสองหู แต่สิ่งที่ทำคือไปกัน แยกย้ายต่างคนต่างกลับบ้าน ไม่เอะใจเลยเหรอ ว่าเขาไปบ่อนไหน ท้องที่ไหน ทำไมปล่อยให้เปิดบ่อน ไม่มีใครตามต่อเลย

“ไม่ช็อกเหรอ มีหน้าที่ปราบบ่อน แต่มีการจับบ่อนทุกวันเลย”

เรื่องนี้ผบ.ตร.ยังบอกว่าไม่มีบ่อน แล้วลูกน้องจะบอกว่ามีเหรอ ทุกอย่างเราอยู่ในโลกแห่งการแสดงว่าทุกคนยอมรับกติกา ว่ามันคือการแสดง เหมือนสติกเกอร์ติดรถสีขาว ที่เขียนว่ารถคันนี้สีแดง เราอยู่ในสภาพนี้แหละ ยอมรับมันโดยดุษฏี สังคมเราก็เดินหน้าต่อไปแบบสอดคล้อง ไม่ไปเถียงว่ารถเธอสีขาวเห็นๆ ไม่รู้ว่าเราหลอกคุณอยู่ หลอกเทพเหรอ แล้วไปขอพรเขาอยู่

“ตกลงใครโง่”

เราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กระบวนการนี้มันสอดคล้องไปต่อได้ ประเทศนี้มีบ่อนเต็มเลย แต่ไปติดสติกเกอร์ว่าไม่มีบ่อน ไม่มีซ่อง ไม่มีโสเภณี แค่ติดป้ายติดสติกเกอร์ เดินหน้าต่อไป แก้ปัญหาด้วยการทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน

เวลาชาวต่างชาติพูดความจริง ก็ไปฟ้อง ไปแบนเขา ต้องเซนเซอร์ หากคนมาพูดก็โดนล่าแม่มด ทำลายความสงบสุขของบ้านเมือง มาสร้างความขัดแย้ง ชักใบให้เรือเสียทำไม

เราอยู่ในประเทศที่เหนื่อย คนที่ต้องรับผิดชอบ ไม่เห็นปัญหานี้เหรอ ทำไมปล่อยผ่าน ถือว่าบกพร่อง ทั้งที่อยู่ในอำนาจ และต้องแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ กลับไม่พูดอะไรถึงมันเลย