หลังจากที่ทีมชาติอังกฤษ เฉือนชนะ โครเอเชีย ไปได้ 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก ราฮีม สเตอร์ลิง ในนาทีที่ 56 ซึ่งเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ช่วยให้ สิงโตคำราม คว้า 3 คะแนนแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ได้สำเร็จ และนี่คือการเก็บตก 4 ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเกมคู่นี้
1. รูปเกมที่หาโอกาสเข้าทำกันยากสำหรับนัดนี้ต้องบอกเลยว่ามีเพียงช่วงต้นเกมเท่านั้นที่ดูเกมจะค่อนข้างเปิดจนต่างฝ่ายต่างหาโอกาสจบสกอร์กันได้โดยเฉพาะทีมชาติอังกฤษ แต่หลังจากนั้น โครเอเชีย เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ก็พยายามเน้นตั้งรับต่ำและรอโอกาสในการโต้กลับ
ซึ่งนั่นทำให้หลังจากผ่านครึ่งชั่วโมงแรก อังกฤษ แทบหาโอกาสเจาะเข้าสู่พื้นที่อันตรายไม่ได้เลย เช่นเดียวกับ โครเอเชีย ที่ตั้งรับลึกก็หาโอกาสเล่นเกมโต้กลับไม่ได้เช่นกัน ทำให้บอลส่วยใหญ่จะอยู่บริเวณกลางสนาม แม้ว่าครึ่งหลังเกมจะเปิดมากขึ้น แต่ก็ยังเล่นกันค่อนข้างรัดกุมและไม่ประมาท จนหาโอกาสเข้าพื้นที่สุดท้ายกันแทบไม่ได้ จะมีก็แต่จังหวะลุ้นฉาบฉวยเท่านั้น
2. โครเอเชีย เน้นรับมากเกินไป
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเพราะอังกฤษเป็นฝ่ายเหนือกว่าในด้านความสามารถของตัวผู้เล่น ทำให้ทีมเยือนวันนี้ต้องถอยลงมาตั้งรับและรอโอกาสในการสวนกลับ
แต่หากมองกันที่ชื่อชั้นของนักเตะว่ากันตำแหน่งต่อตำแหน่งนั้น โครเอเชีย แทบไม่ได้เป็นรองเลยแม้แต่น้อย ทั้ง 3 ประสานเวิลด์คลาสในแดนกลางอย่าง โมดริช โควาชิช และ โบรโซวิช แถมยังมีตัวรุกจอมเทคนิคอย่าง ครามาริช เรบิช วลาซิช ที่ผลงานในลีกต้องบอกว่ายอดเยี่ยมทุกราย แต่กลับเลือกถอยลงมาตั้งรับต่ำ
ทำให้จุดเด่นในการปั้นเกมรวมถึงความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคนที่กล่าวไปนั้น แทบไม่ถูกดึงออกมาใช้มากนัก กระทั่งช่วงท้ายเกมที่พวกเขาพยายามโหมบุกเข้าใส่ก็จะเห็นได้ว่าเกมรับของ อังกฤษ นั้น ก็เจอกับแรงกดดันหนักพอสมควรในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเช่นกัน
3. แบ็คซ้าย อังกฤษ ไปไหน ? หลังจากไลน์อัพ 11 ตัวจริงของทีมชาติอังกฤษออกมาในเกมนี้ เชื่อได้เลยว่าแฟนบอล ทรีไลออน คงเกิดคำถามในหัวขึ้นมาเลยว่า ทำไมเอา ทริปเปียร์ ไปเล่นแบ็คซ้าย!
จริงอยู่ที่เจ้าตัวทำหน้าที่ได้ดี แถมยังเคยถูกจับมายืนตำแหน่งนี้บ่อย ๆ ในทีมของ เซาธ์เกต แต่ก็อย่างว่าทุกคนคงอยากรู้ว่า “แบ็คซ้ายธรรมชาติ” ที่มีไปไหนหมด ? หรือว่ายังดีไม่พอทั้ง ลุค ชอว์ ที่ฟอร์มโดดเด่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เบน ชิลเวลล์ ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ยุโรปกับ เชลซี หรือแม้แต่ บูกาโย ซาก้า ที่พอจะเล่นในตำแหน่งนี้ได้กลับถูก ทริปเปียร์ ปาดหน้าไปเสียหมด
แน่นอนหากผลการแข่งขันออกมาตามที่ต้องการก็คงไม่มีใครว่าอะไร แต่เชื่อได้เลยว่าหากวันใดรูปเกมไม่เป็นไปดังที่หวัง ประเด็นนี้จะถูกยกมาตั้งคำถามเป็นจุดแรก ๆ อย่างแน่นอน
4. จูด เบลลิงแฮม สร้างสถิติ ยูโรหนึ่งในสถิติของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่ถูกทำลายลงในเกมนี้ นั่นคือการที่ จูด เบลลิงแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในฐานะตัวสำรองช่วงท้ายเกม
นั่นทำให้สถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงสนามใน ศึกฟฟุตบอลยูโรรอบสุดท้าย ของ เจโทร วิลเลียม แบ็คซ้ายชาว เนเธอร์แลนด์ ทำไว้ในปี 2012 ตอนอายุ 18 ปีกับ 71 วันได้ถูกทำลายลงอย่างราบคาบ ด้วยตัวเลขสถิติใหม่เพียง 17 ปีกับ 349 วันของ เบลลิงแฮม เป็นที่เรียบร้อย