อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ เจ้าของฉายา “นักฆ่าหน้าเด็ก” ชาวรัสเซีย หลังจากเสียเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่งให้ กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี ไปเมื่อต้นปี ก็ตัดสินใจกลับมาแก้มือใหม่ในกติกามวยไทยในฐานะผู้รั้งอันดับ 5 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต โดยมีนัดฟาดปากกับ “พงษ์ศิริ พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม” ในศึก ONE: NEXTGEN III ที่จะออกอากาศเทปการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564
เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกมวยไทย IFMA 3 สมัยจากแดนหมีขาว ถือเป็นนักมวยไทยชาวต่างชาติที่มีฝีมือจัดจ้านคนหนึ่งใน ONE โดยเขาเปิดตัวครั้งแรกอย่างสวยงามด้วยการเอาชนะนักมวยแถวหน้าอย่าง “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” ไปได้ด้วยคะแนนเอกฉันท์ และยังคว้าชัยชนะได้ 3 ครั้งจากทั้งหมด 5 นัดที่เขาลงแข่งขันในกติกามวยไทย ก่อนที่เขาจะข้ามสายไปชกคิกบ็อกซิ่งและขึ้นแท่นราชันย์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต คนแรกในประวัติศาสตร์ ONE
แต่หลังจากนั้นไม่นาน อลาเวอร์ดี ก็ถูก “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” กระชากเข็มขัดไปต่อหน้าต่อตาด้วยลูกเตะเจาะยางบันลือโลก ทิ้งให้เขาเป็นได้แค่อดีตแชมป์ การกลับมาครั้งนี้ เขาจึงมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะเพื่อชดเชยกับความพ่ายแพ้สุดบอบช้ำที่ผ่านมาและตั้งเป้าไต่อันดับขึ้นไปชิงแชมป์กับเจ้าบัลลังก์มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต อย่าง “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว”
แม้จะต้องเจองานแข็งอย่าง พงษ์ศิริ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมวยพันธ์ุดุที่มีประสบการณ์การชกมวยไทยข้นคลั่ก แต่ อลาเวอร์ดี ดูจะไม่กังวลเท่าไหร่เพราะเขาคุ้นเคยกับนักมวยไทยมาพอสมควร ทั้งยังรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของ พงษ์ศิริ มานานแล้วด้วย โดยมองว่าตนได้เปรียบเรื่องรูปร่างและทักษะการชกคิกบ็อกซิ่งที่จะนำมาปรับใช้ในการชกครั้งนี้
“ผมรู้จัก พงษ์ศิริ มานานแล้ว เขาคว้าแชมป์จากเวทีต่าง ๆ ในเมืองไทยมาเพียบ ผมรู้ว่าจุดแข็งของเขาอยู่ที่ประสบการณ์อันโชกโชน แต่ผมก็คุ้นเคยกับสไตล์ของนักมวยไทยดี ซึ่งเข้ากันได้กับสไตล์การชกของผมอยู่แล้ว”
“ผมอยากชนะในการแข่งครั้งนี้ ผมจะทำหน้าที่ของผมเพื่อชดเชยให้กับความพ่ายแพ้ครั้งก่อน ไม่มีนักกีฬาคนไหนขึ้นเวทีเพื่อมาสู้อย่างเดียว แต่ละคนก้าวขึ้นมาเพื่อได้รับการชูมือ ดังนั้น เป้าหมายเดียวของผมคือชัยชนะ ถ้าไม่ชนะก็ไม่มีค่าอะไร”
“ผมมีความตั้งใจเพียงอย่างเดียวคือ ผมต้องการพิสูจน์ว่าผมเก่งที่สุดในรุ่นน้ำหนักนี้ และเพื่อพิสูจน์ให้เห็นตามนั้น ผมต้องเอาชนะ พงษ์ศิริ ให้ได้”