“อนุรักษ์” ยื่นประกัน พร้อมสู้คดีหลัง ศาลตัดสินจำคุก 6 ปี คดีตบทรัพย์ 5 ล้าน ยันไม่ได้เรียกรับเงิน เตือน กมธ.ชุดใหม่ โทรหาใคร ระวังถูกกล่าวหา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 เม.ย. 2566 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อม. 4/2565 องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมาก ลงโทษจำคุก 6 ปี กรณีเรียกรับสินบน 5 ล้านบาท จากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยนายอนุรักษ์ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์คดี
โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาแล้ว อนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า เคารพในคำพิพากษาขององค์คณะศาลฎีกา แต่จำเป็นต้องอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และคดียังไม่ถึงที่สุด คดีนี้เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของตนในฐานะ ส.ส. ซึ่งเป็นฝ่ายค้านในพรรคเพื่อไทย การเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เป็นเรื่องปกติที่ต้องตั้งคำถาม ซักถามข้อสงสัย และเมื่อถูกตั้งคำถามก็ต้องตอบเป็นเรื่องปกติ
“ทุกกระทรวงก็มอบแบบแปลน และประมาณราคาให้กรรมาธิการพิจารณาทั้งหมด ยกเว้นกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทำให้เกิดความสงสัยว่าส่อไปในทางทุจริต จึงต้องตรวจสอบเพื่อประโยชน์ของทางราชการ หากกรรมาธิการไม่สามารถทำหน้าที่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อย่างไรต่อประเทศชาติ” นายอนุรักษ์ กล่าว
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้โทรไปหานายศักดิ์ดา แต่เป็นนายศักดิ์ดาที่โทรมาหาถึง 5 ครั้ง และได้สนทนากัน 2 ครั้งที่โทรกลับ และอีกหลายครั้งที่ไม่ได้โทรกลับ คดีนี้ตนถูกเร่งรัดดำเนินคดี คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งข้อกล่าวหาในเวลาไม่กี่วัน โดยยังไม่มีหลักฐาน และคดีนี้มีประจักษ์พยานอยู่เพียงคนเดียว คือนายศักดิ์ดา โดยไม่มีทั้งพยานบุคคลหรือวัตถุพยานอื่นๆ เลย เช่น คลิปเสียง แต่นายศักดิ์ดา มักกล่าวอ้างว่ามีบันทึกเทปไว้ ทั้งนี้ ย้ำว่าเป็นเพียงข้อสงสัย แต่เคารพในคำพิพากษา
“หากหลังเลือกตั้งนี้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา คณะกรรมาธิการทุกคนต้องตรวจสอบระวัง โทรหาใครที่เป็นข้าราชการระดับสูงไม่ได้เลย หากถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินก็จะโดนเหมือนผมอีก จะมีมาตรฐานใดให้คณะกรรมาธิการทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติได้บ้าง เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีการเรียกเงินกันจริงหรือไม่ หลักฐานมั่นคงแค่ไหน คดีที่มีพยานปากเดียว เคยลงโทษกันหรือไม่ เชื่อว่าที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาจะให้ความเป็นธรรมกับผม” นายอนุรักษ์ กล่าว
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า มั่นใจในการต่อสู้คดีมาโดยตลอด เพราะไม่เคยเรียกรับเงินใดๆ ไม่เคยมีปรากฏในประวัติการทำงานที่ผ่านมา ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองมาโดยตลอด กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นหน่วยงานที่ดี ทำประโยชน์ให้ประชาชน ซึ่งตนเห็นด้วย แต่ตนไม่เห็นด้วยที่เสนอราคาแพงเกินไป รถราคาคันละ 8-10 ล้านบาท และขุดเจาะเบิกงบประมาณ 171,000 บาทต่อหลุม ตอบคำถามไม่ได้ว่านำงบประมาณไปไหน อีกทั้งคดีนี้ยังไม่มีแบบแปลนจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลอยู่ในสำนวนคดีนี้ด้วยซ้ำ ตนได้มาจากแหล่งอื่น ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลไม่เคยส่งแบบแปลนมาเลย