อนุทิน เผย สธ.ชง ศบค.ชุดใหญ่ ลดสถานะโควิด-19 จากโรคติดต่อร้ายแรง เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง อ้อมแอ้ม ถึงจุดไหน ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 18 ส.ค.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 19 ส.ค.ว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอที่ประชุมรับทราบถึงมติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่ว่าด้วยเรื่องของการลดระดับสถานการณ์ โควิด-19 จากโรคติดต่อร้ายแรง เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า สธ.จะเสนอให้ที่ประชุมศบค. พิจารณาใช้กฎหมายปกติได้แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คงเป็นส่วนประกอบ เพราะพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่นำมาควบคุมสถานการณ์โควิด-19 เป็นเรื่องที่นายกฯ และศบค. เป็นผู้ประกาศบังคับใช้ และข้อมูลของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ให้โรคโควิด-19 เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง เหมือนการเปลี่ยนจากพื้นที่สีแดง ให้เป็นพื้นที่สีส้มอ่อนๆ ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ใช้ประกอบการตัดสินใจในการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้อีกแนวทางหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับศบค.

เมื่อถามว่าสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขมองว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมีความจำเป็นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ความจริงมีผลหลายอย่าง อย่ามองว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินจะมาจำกัดสิทธิเสรีภาพ เพราะตรงนี้ไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องการควบคุมโรคระบาดเท่านั้น ซึ่งทำให้การดูแลรักษาผู้ป่วย เป็นไปได้ด้วยความคล่องตัวมากขึ้น เมื่อต้องการเวชภัณฑ์ ยา วัคซีน ภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีกระบวนการที่ทำให้เกิดความรวดเร็วขึ้นได้

การมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินเท่ากับการมีศบค. เมื่อมีปัญหาเร่งด่วนก็นำเข้าประชุมศบค.ได้ โดยมีทุกภาคส่วนได้รับทราบ ทั้งนายกฯ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร อาจารย์แพทย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ คมนาคม พาณิชย์ จะเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานสบายใจ มั่นใจที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เหมือนมีที่พิงหลังให้ข้าราชการที่ต้องดูแลประชาชน หากไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบพัสดุ และระเบียบต่างๆ ถ้าทุกคนเข้าใจได้ ร่วมมือได้ รักษาตัวเองไม่ให้มีอาการรุนแรง ก็จะค่อยๆปรับไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องถึงสถานการณ์จุดใด จึงควรยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากขณะนี้ใกล้เลือกตั้งแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินในกรณีนี้ ไม่ได้กระทบวิถีชีวิตของใคร น่าจะเป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ เพราะสามารถรวบรวมความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆได้ เราดูแลประชาชนได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นหนึ่งในข้อมูลหากจะพิจารณาไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปในอนาคต และเมื่อลดระดับมาเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ลดสถานะของโรค น่าจะเป็นแนวโน้มที่ดี

เมื่อถามถึงแนวโน้มการใช้วัคซีนตัวใหม่ของไทย ซึ่งขณะนี้ต่างประเทศใช้ควบคุมโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า และโอมิครอนได้แล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า หากคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน พิสูจน์แล้วเห็นชอบก็จะนำเสนอ เมื่อเขาเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์เราจะนำมาพิจารณา เราพร้อมทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชน