อนุทิน ซัดสถานบันเทิงแอบเปิดกลางกรุงฯ ส่อทำประเทศวิบัติ ชี้ถ้าผู้คนให้ความร่วมมือเหมือนช่วงนี้ของปีก่อน ไทยจะไม่มีผู้ติดเชื้อ และตายมา 6 เดือน
25 พ.ย. 2564 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึง การประชุมศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 26 พ.ย. นี้ว่า กระทรวงสาธารณสุข จะเสนอมาตรการเปิดประเทศระยะที่ 2 หลังจากเดือน ธ.ค. น่าจะมีมาตรการผ่อนคลายประเทศให้มีความสะดวกมากกว่าขึ้น เช่นการใช้ ATK มากขึ้น เมื่อเดินทางมาที่ประเทศไทยไม่ต้องตรวจแบบ RT-PCR แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค. ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบในเรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านี้
เมื่อถามถึง ผับบาร์ คาราโอเกะ จะผ่อนคลายอย่างไร หลังผู้ประกอบการเรียกร้องให้เปิดวันที่ 1 ธ.ค. นี้ นายอนุทิน กล่าวว่า เราขอให้ดำเนินการมาตรการโควิดฟรีเซ็ตติ้ง ให้ผู้ประกอบการฉีดวัคซีนให้พนักงาน ตรวจสอบลูกค้าต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดสก่อนเข้าร้าน หากทำกันได้ แสดงให้เห็นว่าทำได้ เราก็พร้อมผ่อนคลาย
แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่ไปร้านที่ไหนยังเห็นคนไม่ฉีดวัคซีน หากพนักงานไม่ฉีดวัคซีนถือว่าน่ากลัวมาก เป็นสิ่งที่ตนขอให้กรมควบคุมโรค กรมอนามัย เร่งทำความเข้าใจให้มีมาตรการตรงนี้ให้เข้มข้นที่สุด มิฉะนั้นจะขยับลำบาก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความกังวลสถานบันเทิงที่แอบเปิด จนทำให้มีคลัสเตอร์สถานบันเทิงเกิดขึ้น นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีกังวลมาก ทั้งเรื่องความเสี่ยงติดเชื้อ เรื่องทำมาหากิน ท่านสั่งการมาตลอด มียาอะไรดี ๆ ก็บอกให้เร่งจัดหาให้ได้ และวันนี้พึ่งมาการเซ็นสัญญาซื้อวัคซีน และ ยา เพิ่มเข้ามา ทำให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลในการตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ และ ประชาชน จะได้เร่งกลับมาทำมาหากินในทุกมติ
เมื่อถามว่าถึงสถานบันเทิงแอบเปิดใจกลางเมืองกรุง กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีคลัสเตอร์ ทุกครั้งที่มีการระบาดใหญ่ ทุกครั้งที่มีความสูญเสีย มันไม่ได้มาจากการทำกระทำที่ถูกกฎหมาย ส่วนใหญ่มาจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตรงนี้เป็นเรื่องสำนึก และสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องเร่งไปจัดการให้เรียบร้อย
ถ้าผู้คนให้ความร่วมมือเหมือนช่วงนี้ของปีก่อน ประเทศไทยเราไม่มีผู้ติดเชื้อ และตายมาตั้ง 6 เดือน พอมีการผิดกฎหมาย เสี่ยงกฎหมายเมื่อไหร่ ความวิบัติอะไรต่าง ๆ ก็ตามมา รัฐพยายามให้มีมาตรการทุกเรื่องเพื่อความสะดวก แต่ถ้ามีคนทำนอกมาตรการนั้น ก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดายโอกาสต่าง ๆ เกิดเหตุอะไรขึ้นมา ก็ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นไปเพื่อแลกกับความปลอดภัย โดยเราพยายามทำให้ดีที่สุด