‘อนุทิน’ ชี้หลักประกันสุขภาพไทย สำเร็จระดับโลก มุ่งลดเหลื่อมล้ำ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

Home » ‘อนุทิน’ ชี้หลักประกันสุขภาพไทย สำเร็จระดับโลก มุ่งลดเหลื่อมล้ำ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


‘อนุทิน’ ชี้หลักประกันสุขภาพไทย สำเร็จระดับโลก มุ่งลดเหลื่อมล้ำ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

‘อนุทิน’ ชี้หลักประกันสุขภาพไทย สำเร็จระดับโลก มุ่งลดเหลื่อมล้ำ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ย้ำช่วงโควิด -19 ทั้งคนไทยและต่างชาติ ได้ตรวจเชื้อ รักษา และฉีดวัคซีน

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกันเปิดงานวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล 2021 : ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังลงทุนในระบบสุขภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน จัดโดยกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ สธ. และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์

นายอนุทิน กล่าวว่า ในปี 2012 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 12 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันหลักประกันสุขภาพสากล เพื่อสนับสนุนให้ทุกประเทศมีระบบหลักประกันสุขภาพ สำหรับปีนี้กำหนดการรณรงค์ คือ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ลงทุนในระบบสุขภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนขับเคลื่อนประเทศต่างๆ ให้มีการลงทุนด้านสุขภาพอย่างเพียงพอ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพครบวงจร ลดความเหลื่อมล้ำในทุกเพศทุกวัย ไม่ให้มีการทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทยแสดงให้เห็นว่าเป็นระบบสุขภาพสำหรับทุกคน ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการตรวจหาเชื้อทั้ง RT-PCR, ATK, การรักษา และการรับวัคซีน ทั้งแก่คนไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย โดยไม่ต้องร่วมจ่าย ซึ่งรัฐบาลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้ เพราะจะไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าพวกเราทุกคนจะปลอดภัยทั้งหมด

“ประเทศไทยดำเนินการระบบหลักประกันสุขภาพมากว่า 2 ทศวรรษ และประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับในระดับโลก ซึ่งได้รับการชื่นชมว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย เป็นสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่า ระบบหลักประกันสุขภาพไม่ใช่เป้าหมายที่เกินฝัน สามารถเป็นไปได้ ช่วยคนเข้าถึงการรักษา ลดภาระค่ารักษาพยาบาลได้ โดยเฉพาะโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น มะเร็ง โรคไต การฟอกเลือด ช่วยปกป้องประชาชน ส่งเสริมการเข้าถึงระบบสุขภาพ โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจน”

“ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้เป็นผลของการลงทุนในระบบสุขภาพของประเทศไทย และการส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบหลักประกันสุขภาพ จึงไม่ใช่แค่การต่อสู้กับโรคโควิด-19 แต่เรายังมุ่งไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)” นายอนุทินกล่าว

ด้านนายดอน กล่าวว่า การประชุมสมัชชาอนามัยโลกวาระพิเศษ ทุกรัฐเห็นพ้องต้องกันในการพัฒนาเครื่องมือระหว่างประเทศแบบใหม่ นำไปสู่สนธิสัญญาโรคระบาดที่มีผลผูกพันทางกฎหมายครั้งแรก เพื่อให้เรามีความพร้อมตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ครั้งต่อไป และลดการสูญเสียของมนุษยชาติ ทั้งนี้ การกลายพันธุ์ของโควิด-19 เป็นสายพันธุ์ใหม่เป็นการแจ้งเตือนว่าการระบาดยังไม่จบ สภาวะนี้ไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย

ดังนั้น วัคซีนและการรักษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งระบบหลักประกันสุขภาพช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการเหล่านี้ โดยประเทศไทยรักษาและฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยไม่คำนึงสัญชาติ สถานะการเข้าเมือง ผ่านการดำเนินของโครงการต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างที่ต้องเติมเต็ม เสริมสร้างระบบหลักประกันสุขภาพให้แข็งแกร่งขึ้นในระดับโลกและประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและราคาที่จ่ายได้

นายดอน กล่าวอีกว่า ประเทศไทยทำให้เกิดระบบหลักประกันสุขภาพขึ้นมาได้กว่า 2 ทศวรรษ แม้มีงบประมาณปานกลาง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ตราบใดที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล รวมถึงความมุ่งมั่นและความร่วมมือจากหลายภาคส่วน สำหรับการจัดงานวันหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในครั้งนี้ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทยต่อผู้เข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ จะเดินหน้าขับเคลื่อนงานระบบหลักประกันสุขภาพในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อเป็นเครื่องมือในการกลับมาสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประเทศ รวมถึงจะเข้าร่วมต่ออายุพันธสัญญาในการประชุมระดับสูงเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ